เศรษฐีถูกหวย
เพิ่มทวี มีเงินเยอะมากมาย
การ จัดอันดับ 40 เศรษฐีไทยของนิตยสารฟอร์บส์ปีนี้ความน่าสนใจไม่ได้อยู่ที่ใครรวยที่สุดเท่า นั้น เพราะจากรายชื่อก็เป็นหน้าเก่าๆ ผลัดกันขึ้นแท่นผู้นำอันดับหนึ่ง อันดับสองสามสี่แล้ว แต่มูลค่าหุ้นแต่ละปี เพราะการจัดอันดับจะวัดจากมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ไม่รวมกับทรัพย์สินอื่นๆ ที่อยู่นอกตลาด
สำหรับ ตระกูลไหนครองแชมป์จะวนเวียนระหว่างตระกูลเจียรวนนท์ ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ตระกูลจิราธิวัฒน์ ค่ายเซ็นทรัล ตระกูลสิริวัฒนภักดี ค่ายเบียร์ช้าง และตระกูลอยู่วิทยา จากค่ายกระทิงแดงที่กำลังตกเป็นข่าวใหญ่ที่คนในสังคมกำลังจับตา
น่า สังเกตว่าธุรกิจที่ร่ำรวยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่ครอบครองตลาดมาช้า นาน ธุรกิจที่เติบโตจากธุรกิจสัมปทาน บางรายไม่น่าเชื่อเคยเจ๊งจากวิกฤตต้มยำกุ้งยังกลับมามีชื่อติดอันดับได้ คงไม่ต้องบอกว่าใครรวยเท่าไหร่เพราะนับตัวเลขไม่ไหวจริงๆ
แต่ความน่าสนใจอยู่ที่รายได้เศรษฐีเหล่านี้เพิ่มขึ้นทั้งที่ภาวะเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะย่ำแย่ ส่วนเศรษฐกิจในประเทศก็ลูกผีลูกคน
จาก การวิเคราะห์ของนิตยสารฟอร์บส์ เหตุที่เศรษฐีไทยมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 20% เป็นผลมาจากนโยบายประชานิยมของรัฐบาลที่ลดภาษีนิติบุคคลซึ่งเป็นภาษีของผู้ ประกอบการ จากเดิม 30% เหลือ 23% ทำให้บริษัทเหล่านี้รวยขึ้นทันทีแบบไม่ต้องลงทุนลงแรง 7%
ภาษี ที่ลดลง 7% ในปีนี้ทำให้รายได้รัฐหายทันที 5.5 หมื่นล้านบาท เม็ดเงินเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ในกระเป๋าของเจ้าของธุรกิจทั้งหลาย ธุรกิจขนาดใหญ่ที่เคยเสียภาษีมากก็ได้กลับคืนมากหน่อย
ยิ่ง รัฐบาลยังจะลดให้อีก 3% จาก 23% ปีนี้ เหลือ 20% ในปีหน้า และไม่แน่อาจจะลดลงอีกในปีถัดไป บริษัทเหล่านี้คงจะรวย อู้ฟู่แบบไม่ต้องลงทุนลงแรงก็ได้กำไรทันที เท่ากับว่าปีนี้กับปีหน้าธุรกิจเอกชนประหยัดเม็ดเงินไม่ต้องเสียภาษีถึง 10% เลยทีเดียว
นอก จากนี้เป็นผลจากตลาดหุ้นไทยปีนี้โตขึ้น 19% ผลพวงตลาดที่โตขึ้นส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนได้ย้ายฐานจากตลาดยุโรป อเมริกาที่มีปัญหาเศรษฐกิจมาหาลงทุนในตลาดหุ้นไทยแทน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดหุ้นโตขึ้นเพราะบริษัทในตลาดหลักทรัพย์มีกำไรกัน ถ้วนหน้าจากนโยบายลดภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล
เรียกว่าลดภาษีนิติบุคคลเที่ยวนี้บรรดาธุรกิจที่อยู่ในตลาดหลัก ทรัพย์ฟัน 2 เด้งเหนาะๆ
ขณะ ที่ในห้วงเวลาใกล้ๆ กัน นางสุวรรณี คำมั่น รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า การพัฒนาในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (ปี 2550-2554) พบว่าช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนห่างกันถึง 12 เท่า มากกว่าแผนที่ตั้งไว้ที่ 10 เท่า สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะวิกฤตเศรษฐกิจ ความขัดแย้งทางการเมือง รวมถึงนโยบายรัฐบาล
เห็นมั้ยว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ประชานิยมสำหรับคนยากคนจนอย่างเดียว แม้แต่คนรวยจนล้นฟ้าอยู่แล้วยังถูกหวย รวยด้วยประชานิยมเช่นเดียวกัน
|
|||
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น