10 เหตุการณ์เด่น ๆ จากเอเชียในปี 2011
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก hangzhou.com.cn, qpic.cn, diarioshow.com, giorgionline.com, foksik.ru, csicop.org, vinavu.com, elmundodesencajado.es, thenational.ae, fc2.com, เฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck, youtube.com โพสต์โดย karpetbagger, theatlantic.com, canberratimes.com.au และ tert.am
ขอเกาะติดกระแสการจัดอันดับแห่งปี 2011 นี้แบบต่อเนื่องอีกสักนิด เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา มีเรื่องมากมายบนโลกกลม ๆ ใบนี้เกิดขึ้นให้เรา ๆ ท่าน ๆ ได้ติดตามและเกาะติดความเคลื่อนไหวกันมาโดยตลอด มาคราวนี้ทางเว็บไซต์ asiaone.com ก็ได้ทำการคัดเอา 10 เหตุการณ์เด่น ๆ จากเอเชียในปี 2011 มาให้คุณผู้อ่านได้ทราบกันแบบเข้าใจง่าย ๆ ฉะนั้นแล้วเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าว่า ทั้ง 10 เหตุการณ์นั้น มีอะไรกันบ้าง..
1. การกวาดล้างขบวนการบังคับเด็กพิการขอทานที่จีน
ไม่ใช่จะมีแต่ในบ้านเราเท่านั้น ที่มีปัญหาเรื่องของคนขอทานมาให้ได้ปวดหัวกัน เพราะที่จีนเองก็เจอปัญหานี้ด้วย แถมยังเป็นปัญหาหนักถึงขั้นที่ว่าทำเป็นขบวนการกันเลยด้วย นี่เองเลยทำให้สื่อมวลชนของจีนต้องออกมาเปิดโปงเรื่องราวนี้ให้แดงขึ้นมา ก่อนที่ทางการจะเร่งกวาดล้างขบวนการนี้กันอย่างเร่งด่วน เพราะขบวนการนี้บีบบังคับให้เด็กตัวเล็ก ๆ ที่มีความพิการมานั่งขอทานเพื่อให้ดูน่าสงสารอีกด้วย
2. แผ่นดินไหวและสึนามิที่ญี่ปุ่น
เรื่องราวของภัยพิบัติทางธรรมชาติ นำมาซึ่งความสูญเสียอย่างมากมายมหาศาล ทั้งนี้ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ๆ เพราะไม่เพียงแต่เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เท่านั้นที่เกิดขึ้น แต่ยังมีเรื่องของสึนามิยักษ์มาซัดเข้าใส่ประเทศญี่ปุ่นให้เกิดความเสียหายไปมากมาย ทั้งในเรื่องของข้าวของต่าง ๆ อาคารบ้านเรือน รวมไปถึงชีวิตของผู้คนที่ไม่อาจจะหนีภัยธรรมชาตินี้ไปได้อีกนับไม่ถ้วน
3. สารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหล และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดที่ฟูกุชิมะ
หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่ญี่ปุ่นได้สงบลงไปแล้ว ปัญหาใหญ่ที่ตามมาติด ๆ ก็คือเรื่องสารกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลออกมา ส่งผลให้สิ่งอุปโภคบริโภค ทั้งน้ำดื่มและอาหารต่าง ๆ มีการเจือปนของสารกัมมันตรังสี โดยสารที่รั่วไหลออกมานี้ล้วนแต่มาจากการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟูกุชิมะทั้งสิ้น ซึ่งทางการญี่ปุ่นต้องใช้เวลาอยู่นานหลายเดือนเลยทีเดียว ถึงจะควบคุมวิกฤตครั้งนี้เอาไว้ได้
4. การจากไปของ สัตยา ไส บาบา ศาสดาทางจิตวิญญาณที่คนอินเดียนับถือและศรัทธากันทั้งประเทศ
เป็นข่าวคราวที่ช็อกไปตาม ๆ กัน สำหรับผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ประเทศอินเดีย กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของศาสดาทางจิตวิญญาณ "สัตยา ไส บาบา" (Sathya Sai Baba) ผู้ซึ่งมีอำนาจเหนือธรรมชาติ รวมทั้งความสามารถที่จะเสกวัตถุด้วยอากาศ สามารถระลึกชาติได้ และรักษาโรคร้ายขั้นรุนแรงได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
5. การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทย กับการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฏาคม
จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นเหตุให้นำไปสู่การยุบสภาและการเลือกตั้งครั้งใหม่ แน่นอน 2 พรรคใหญ่ของไทยทั้งพรรค "เพื่อไทย" และพรรค "ประชาธิปัตย์" คือ 2 พรรคที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด เพราะหากพรรคไหนชนะการเลือกตั้ง นั่นหมายถึงอนาคตของประเทศชาติกับผู้นำคนใหม่ ที่มีเรื่องราวต่าง ๆ นานาให้ต้องสะสางกันมากมาย และหลังหมดเวลาการเลือกตั้ง ผลสรุปที่ออกมาก็แสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายที่ได้รับการไว้วางใจจากประชาชนมากกว่า
ทั้งนี้ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมายังทำให้ชื่อของ "นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ได้กลายเป็นที่รู้จักและการตั้งข้อสังเกตต่าง ๆ จากสื่อทั่วโลก ด้วยการดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย และความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องกับการเป็นน้องสาวของอดีตนายกฯ "ทักษิณ ชินวัตร" นั่นเอง
6. รถไฟความเร็วสูงที่จีนชนกันย่อยยับ
หลังจากที่ประเทศจีนได้เปิดตัวว่ามี "รถไฟความเร็วสูง" ให้ได้ใช้งานไปได้ไม่นาน สิ่งที่ไม่มีใครคาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถไฟความเร็วสูง 2 ขบวน ดันเกิดอุบัติเหตุชนกันยับ จึงเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย ๆ 32 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งตามรายงานระบุว่า สาเหตุนั้นเกิดจากระบบการทำงานของรถไฟที่ขัดข้อง รวมถึงการประสานงานที่ผิดพลาดเลยทำให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมดังกล่าวขึ้น
7. พิธีอภิเษกสมรสของกษัตริย์จิกมี และพระราชินีเจ็ตซัน แห่งราชอาณาจักรภูฏาน
เป็นข่าวดีที่สร้างความปลาบปลื้มยินดีของพสกนิกรชาวภูฏานทั้งประเทศ เพราะเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ทรงอภิเษกสมรสกับ นางสาวเจ็ตซัน เปมา ซึ่งเป็นผู้หญิงสามัญชนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพระราชพิธีเป็นไปอย่างเรียบง่ายตามโบราณราชประเพณีของภูฏาน ซึ่งในตลอดทั้งวันนั้น มีการจัดงานเฉลิมฉลองและงานรื่นเริงตามแบบฉบับของชาวภูฏานกันทั้งประเทศ
8. วินาทีสะเทือนใจของหนูน้อยจีนวัย 2 ขวบ ถูกรถทับ 4 ครั้ง แถมไร้คนช่วยเหลือ
เหตุการณ์น่าประนามครั้งนี้เกิดขึ้นกับ หนูน้อย หวัง เยว่ เด็กน้อยวัยเพียงแค่ 2 ขวบ ถูกรถชนแล้วเหยียบซ้ำถึง 2 คันซ้อน แถมคนขับยังเหยียบคันเร่งออกไป เหยียบร่างหนูน้อยซ้ำอีกครั้งหนึ่งราวกับคนไม่มีหัวใจ แต่ที่น่าสลดใจมากกว่านั้น คือหลังจากที่หนูน้อยถูกรถชนนอนแน่นิ่งอยู่บนถนนแล้ว ก็มีผู้คนเดินไปเดินมาถึง 3 คน แต่ทุกคนกลับมองร่างหนูน้อยแล้วเดินเลี่ยงผ่านไปหน้าตาเฉย ไม่มีใครเข้าให้ความช่วยเหลือเลยสักคน
ทั้งนี้ มีคุณป้าคนหนึ่งที่ทำอาชีพเก็บขยะ เข้ามาช่วยเหลือหนูน้อย หวัง เยว่ ออกมาจากที่เกิดเหตุ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้ เป็นเหตุให้หนูน้อย หวัง เยว่ เสียชีวิตไปในที่สุด โดยจากเหตุการณ์นี้ ก็ทำให้ผู้คนและหน่วยงานต่าง ๆ ในจีนได้หันมาตระหนักถึงทั้งการขับขี่รถ การดูแลเด็กเล็ก และศีลธรรมกันมากขึ้น ที่สำคัญ ยังทำให้ฉุกคิดกันด้วยว่า การยัดเยียดข้อหาให้คนช่วยชีวิตจนกลายเป็นผู้เกี่ยวข้องเองที่ทำให้คนบาดเจ็บได้บ่อย ๆ นั้น ทำให้คนในสังคมไร้ซึ่งมนุษยธรรมมากขึ้นหรือไม่
9. ประเทศไทยกับอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ยากจะลืมเลือน
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่คนไทยทั้งประเทศจะจดจำกันไปตราบนานแสนนาน เพราะน้ำท่วมครั้งนี้ ได้สร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องชาวไทยทั่วทั้งประเทศอย่างมากมายมหาศาล โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางและจังหวัดกรุงเทพมหานครด้วยแล้ว โดนผลกระทบกันมากที่สุด สถานที่สำคัญ ๆ โบราณสถานหลายแห่ง ล้วนแล้วแต่จมน้ำด้วยกันหมดทั้งสิ้น
อย่างไรก็ดี จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็ทำให้เห็นถึงน้ำจิตน้ำใจของคนไทยที่มีมากกว่ามวลน้ำที่ไหลเอ่อท่วมอย่างมาก ทั้งการช่วยเหลือจากภาครัฐ ภาคเอกชน พี่น้องประชนชาวไทยในภูมิภาคอื่น ๆ การช่วยเหลือจากชาวต่างชาติ และที่พึงพิงในทุก ๆ เหตุการณ์อย่างพี่น้องตำรวจและทหาร ซึ่งช่วยเหลือประชาชนกันอย่างไม่ลดละ คอยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ นานามากมาย ทั้งเรื่องของอาหารการกิน และการขนส่ง เรียกได้ว่าชนะใจคนไทยไปอย่างท้วมถ้นมาก ๆ เลยทีเดียว
10. การจากไปของผู้นำโสมแดง และการก้าวขึ้นมาเป็น (ว่าที่) ผู้นำของ "คิม จองอัน"
ข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตผู้นำเกาหลีเหนือ "คิม จอง อิล" (Kim Jong-Il) กำลังเป็นที่จับตามองของสื่อทั่วโลก ถึงปฏิกิริยาของชาติมหาอำนาจต่าง ๆ ที่กำลังเฝ้ามองความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด บ้างก็พูดถึงประเด็นทางการเมือง บ้างก็พูดถึงเรื่องของอาวุธนิวเคลียร์ และอื่น ๆ อีกสารพัด หลาย ๆ สื่อก็ให้ความสำคัญกันมากมาย ทั้งเรื่องของการเปิดประวัติ และเรื่องราวต่าง ๆ ของนายจองอิลกับความเป็นเกาหลีเหนือ
แน่นอนว่าเมื่อผู้นำคนเก่าจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ ประเด็นต่อไปที่มีการพูดถึงกันมาก ๆ ก็คือความเป็นไปได้ที่ นายคิม จองอึน บุตรชายของ คิม จองอิล จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่ต่อจากพ่อของเขา ซึ่งความเป็นไปได้ที่ว่านั้นจะเป็นจริงหรือไม่ ก็คงต้องติดตามดูความเคลื่อนไหวกันต่อไปยาว ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น