ประวัติ
ชาตุภูมิ : ต.บางจาก อ.เมือง จ.เพชรบุรี
เกิด :
วันพุธ ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 11 พ.ศ. 2422
บิดา
มารดา ชื่อ : นายแป้น นางนุ่ม นามสกุล อ้นแสง
มรณภาพ
: 16 มกราคม พ.ศ. 2517
วัยเยาว์
ท่านก็ช่วยพ่อแม่ทำไร่
ทำนา ไม่มีโอกาสร่ำเรียนหนังสืออย่างเด็กสมัยนี้จนกระทั่งอายุ 20 ปี พ่อแม่ก็หวังจะให้บวชเรียน
จึงพาไปฝากกับท่านอาจารย์เปลี่ยน วัดเขาบันไดอิฐ
เพื่อจะได้เล่าเรียนและบวชเป็นพระภิกษุต่อไป
บรรพชิต
พระภิกษุแดงเมื่อได้บวชก็ประพฤติเคร่งครัดต่อพระวินัยและปฏิบัติต่อพระอาจารย์เปลี่ยนเป็นอย่างดี
อาจารย์เปลี่ยนจึงรักใคร่มากกว่าศิษย์คนอื่นๆและยังได้สอนวิชาการวิปัสสนา
และวิธีนั่งปลงกัมมัฏฐานให้ รวมถึงถ่ายทอดวิชากฤตยาคมให้อย่างไม่ปิดบังหวงแหน
เหตุนี้จึงทำให้พระภิกษุแดงเพลิดเพลินในการศึกษาวิชาความรู้จนลืมสึกยิ่งนานวันก็ยิ่งสำนึก
ในรสพระธรรม ก็เลยไม่คิดสึกเลย จึงกลายเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่มีอาวุโสสูงสุด
จนกระทั่งพระอาจารย์เปลี่ยนมรณภาพลง
พระภิกษุแดงรับหน้าที่เป็นสมภารวัดเขาบันไดอิฐแทน กลายเป็น "หลวงพ่อแดง"
ตั้งแต่ พ.ศ. 2461 เป็นต้นมา
และแม้ท่านจะได้เป็นสมภารซึ่งต้องมีภารกิจมาก แต่ท่านก็ยังปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิในถ้ำเพื่อแสวงหาวิมุตติภาวนาทุกวัน
ญาณสมาธิจึงแก่กล้า จิตนิ่ง บริสุทธิ์ จนว่ากันว่าท่านมีหูทิพย์ ตาทิพย์
อภินิหาร
ในระหว่าง พ.ศ. 2477 ถึง พ.ศ. 2480 เวลานั้นเกิดโรคระบาดสัตว์ วัยควายเป็น โรครินเดรอ์เปรส
ซึ่งเป็นโรคปากเท้าเปื่อยที่ติดต่อร้ายแรง พากันล้มตายเป็นเบือ
สัตว์แพทย์ก็ไม่มีต้องขอให้ทางการมาช่วยฉีดยา
ราษฎรจึงพากันไปหาหลวงพ่อให้ช่วยปัดเป่าป้องกันโรคระบาดสัตว์ให้ด้วย
หลวงพ่อแดงจึงปลุกเสกลงเลขยันต์ในผืนผ้ารูปสี่เหลี่ยมเล็กๆแจกให้ชาวบ้านที่เลี้ยงวัวควายนำไปผูกปลายไม้ปักไว้ที่คอกสัตว์ของตน
ปรากฏผลว่า คอกสัตว์ที่ปักผ้าประเจียดยันต์หลวงพ่อแดงไม่ตายเลย
ทุกบ้านในตำบลใกล้เคียงวัดเขาบันไดอิฐ
เมื่อรู้กิตติศัพท์จึงพากันมาขอยันต์หลวงพ่อแดงทุกวันมิได้ขาด
กระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 คือมหาสงครามเอเชียบูรพา
มีทหารญี่ปุ่นมาขึ้นที่ประจวบคีรีขันธ์ ก็เกิดการต่อสู้กับทหารอากาศของไทยที่นั่น
ชาวเพชรบุรีก็ตระหนกตกใจ แล้วชักชวนกันหาหลวงพ่อแดง ท่านก็ลงผ้าประเจียดยันต์แจก
ให้คุ้มครองป้องกันตัว
เมืองเพชรบุรี เมื่อ พ.ศ. 2487 เกิดภัยสงครามชนิดร้ายแรง
มีระเบิดลงทุกวันทำลายสถานีรถไฟ สะพานข้ามแม่น้ำ บ้านเรือน โรงเรียนต้องสั่งปิด
ข้าราชการไม่ได้ไปทำงาน ทุกหน่วยราชการปิดหมด และปรากฏเรื่องเป็นที่ฮือฮาว่า
บ้านคนที่มีผ้ายันต์หรือห้อยเหรียญหลวงพ่อแดง กลับไม่ได้รับอันตรายใดๆเลย
หลวงพ่อแดงจึงดังใหญ่จนสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 กิตติคุณของหลวงพ่อในทางกฤตยาคมจึงปรากฏความศักดิ์สิทธิ์แพร่หลายยิ่งขึ้น
ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อแดงปรากฏอีกครั้ง
เมื่อเกิดคอมมิวนิสต์ญวนเหนือบุกญวนใต้ ประเทศไทยต้องส่งกองพันเสือดำ
ออกไปช่วยพันธมิตรรบในญวนใต้ก็ปรากฏว่าทหารไทยทีไปปฏิบัติหน้าที่รบในเวียดนาม
คนที่มีเหรียญหลวงพ่อแดงห้อยคออยู่ ไม่ถูกอาวุธเป็นอันตรายแก่ชีวิตสักคน
ทั้งๆที่เข้าประจัญบานอย่างหนักเป็นที่สงสัยของเพื่อนทหารต่างชาติว่าทหารไทยมีของดีอะไร
ได้รับคำตอบจากทหารไทยว่ามี "เหรียญหลวงพ่อแดง"
ท่านเป็นพระใจดีมีเมตตาสูง
และอารมณ์ดีเสมอ ไม่ชอบดุด่า ว่าใครโดยเฉพาะคำหยาบคายถึงพ่อแม่ท่านห้ามขาด
ท่านว่าทุกคนเขาก็มีพ่อมีแม่ การด่าถึงบุพากรีทำให้ความดีงามเสื่อมถอย
ถึงห้อยพระพระท่านก็ไม่คุ้มครอง
มรณภาพ
หลวงพ่อแดงมรณภาพด้วยโรคชรา
เมื่ออายุ 96 ปี พรรษาที่ 74 ก่อนมรณภาพท่านเคยพูดกับพระปลัดบุญส่ง
ธัมมปาโล รองเจ้าอาวาสวัดขณะนั้นว่า "เมื่อฉันหมดลมหายใจแล้วอย่าเผา
ให้เก็บร่างฉันไว้ที่หอสวดมนต์ และให้เอาเหรียญที่ปลุกเสกรุ่น 1 ใส่ปากไว้พร้อมเงินพดด้วง 1 ก้อน
ส่วนนี้ฉันเอาไปได้และให้เอาขมิ้นมาทาตัวฉันให้เหลืองเหมือนทองคำ
พระบุญส่งจึงรับปาก และได้ทำตามที่หลวงพ่อประสงค์ทุกอย่าง
เรื่องเล่า
หลังจากที่หลวงพ่อแดงมรณภาพแล้วก็ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ที่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า
อภินิหารของหลวงพ่อแดงมีจริง กับผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองเพชรบุรีท่านหนึ่ง
ซึ่งจู่ๆท่านก็มีนิมิตฝันเห็นบ่อน้ำโบราณที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นก้ามปูใหญ่
พอขุกก็พบบ่อน้ำนั้นจริงๆ
บ่อน้ำแห่งนี้หลวงพ่อแดงเคยพูดไว้สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ว่าเป็น
"บ่อน้ำวิเศษ" และขณะที่ขุดยังพบ "หัวพญานาคสีขาว"
แบบปูนปั้นอยู่ที่ก้นบ่อด้วย 1
หัว
เมื่อชาวบ้านรู้ข่าวก็พากันแห่มาเพื่อจะตักน้ำเอาไปใช้กันแต่ปรากฏว่าพบงูใหญ่ตัวหนึ่งนอนขดอยู่ใต้สังกะสีที่เอาไว้ปิดปากบ่อ
ชาวบ้านที่เห็นบอกว่า ลักษณะงูที่เห็นนั้นมีหงอนที่หัวด้วย ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีชาวบ้านกล้าเข้าไปตักน้ำที่บ่อนี้อีกเลย
ที่น่าแปลกอีกก็คือ
นายตำรวจท่าหนึ่งซึ่งเคยมาช่วยงานในวัดก็ฝันเห็นหลวงพ่อแดง ท่านมาต่อว่า
"ทำอะไรทำไมไม่บอก"
นายตำรวจก็ไปเล่าให้พระปลัดบุญส่งเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันฟัง
ท่านก็ไม่เชื่อแล้วยังสั่งให้ย้ายศาลเก่า 2 ศาล บริเวณเชิงเขาบันไดอิฐเพื่อปรับปรุงบริเวณ
โดยไม่ยอมทำพิธีเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เพราะท่านเป็นคนไม่เชื่อไสยศาสตร์
ปรากฏว่าพอตกเย็นก็เกิดอาการผิดปกติ อยู่ๆคอก็เริ่มบิดและตัวแข็งไปทั้งตัว
ขยับไม่ได้ ชาวบ้านมาเยี่ยมเห็นว่าอาการหนักมากจึงช่วยกันพาส่งโรงพยาบาลเปาโล
แต่พอถึงโรงพยาบาล อาการที่เป็นกลับหายราวปลิดทิ้ง
และเมื่อเอ็กซเรย์พร้อมตรวจอย่างละเอียดก็ไม่พบว่าเป็นอะไรเลย
และระหว่างที่นอนพักรักษาตัวอยู่ท่านก็พูดออกมาคนเดียวโดยไม่รู้ตัวว่า
"ของดีมีอยู่ ผ่านไปผ่านมาไม่ใช้ต้นก้ามปูตรงนั้นเป็นบ่อน้ำ ให้ขุดลงไปแล้วจะเจอ
มีของดีทำไมไม่รักษา"
ในภายหลังที่ออกจากโรงพยาบาลแล้วพระครูโสภณพัฒนกิจ (หลวงพ่อบุญส่ง
ธัมมปาโล)ก็ได้ฝันอีกครั้ง ในความฝันท่านเห็นคนนุ่งผ้าถกเขมรมาหา
มาบอกว่าเขาเป็นคนมัดหลวงพ่อเอง
พูดแล้วเขาก็เอามือรีดที่ตัวหลวงพ่อเหมือนรีดเอาไขมันออก ทั้งขาและแขน จนหลวงพ่อพระปลัดบุญส่งสะดุ้งตื่นและพอตื่นขึ้นมาก็ยังเห็นผู้ชายคนนั้นอยู่ในห้องพอถามชื่อ
เขาก็ถอยออกไปแล้วตอบกลับมาว่า "เขาเป็นเปรต"
จากนั้นก็หายวับกลายเป็นแสงไฟ พร้อมเสียง "วี๊ด" ดังมาก
ซึ่งพระในวัดก็ไดยินกันทั่ว เรื่องนี้ได้ทำให้ "พระครูโสภณพัฒนกิจ (บุญส่ง ธัมมปาโล)"
เจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐรูปปัจจุบันยอมรับว่าอภินิหารของหลวงพ่อแดงนั้นมีจริงเพราะเจอแล้วด้วยตัวท่านเอง
สหธรรมิก
“พระครูญาณสาคร” หลวงพ่อแฉ่ง สำเภาเงิน (สีลปญฺโญ)
วัดปากอ่าวบางตะบูน ตำบลบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี “พระครูอโศกธรรมสาร” หลวงพ่อโศก วัดปากคลอง ตำบลบางครก
อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี “หลวงพ่อทองศุข
อินทโชโต” วัดโตนดหลวง ตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ
จังหวัดเพชรบุรี “หลวงพ่อแฉ่งเมือง ปญญมาโค” วัดคงคาราม อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
ภาพประกอบเหรียญรุ่นแรก เนื้อทองแดง สวย หายาก ใครที่สนใจให้ติดต่อทาง e-mail หลักแสนกลาง/เหรียญเงินหายากสุดๆ ราคาแพงมากเพราะจำนวนการผลิตน้อย
ม.โชคชัย ทรงเสี่ยงไชย
--------------------------------------------------------------------------------------------
ของหนูมีเหรียญหนึ่งคะไม่รู้จริงหรือปลอมมันเป็นของตาเก็บไว้นาน ใครดูเป็นติดต่อได้คะ 0826821513
ตอบลบมีอยุ่หนึ่งเหรียญครับ เท่าที่ผมเช็กก็ตรงกับที่โคตเขาบอกใว้ แต่อยากให้มั้นใจกว่า ขอคำชี้แนะผู้รู้จริงครับ
ตอบลบ0955345059
ชืัอในราคาที่หา่งจากที่ติ
ตอบลบ