ประวัติหลวงปู่เขียว วัดหรงบล
หลวง ปู่เขียว ถือกำเนิดขึ้นในตระกูลชาวนา เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้นแรมไม่ปรากฏ เดือนยี่ ปีมะเมีย พ.ศ.2424 บิดาชื่อนาย ปลอด มารดาชื่อแป้น มีพี่น้อง 4คน ชาย2หญิง2 หลวงปู่เขียวเป็นพี่ชาวคนโต น้องชายชื่อนายพลับ น้องสาวชื่อนางเอียด และนางปาน น้องชายและน้องสาวเสียชีวิตก่อนท่าน
การศึกษา
เมื่อยังเยาว์วัย หลวงปู่เขียวอาศัยพระในบ้านช่วยสอนหนังสือให้อ่านเขียนได้ตามอักขระสมัย ท่านชอบศึกษาเล่าเรียนเป็นชีวิตจิตใจ
อุปสมบท
"หลวงปู่เขียว"ท่านตัดสินใจสละเพศฆราวาส เข้าสู่วัดเมื่ออายุได้ 22ปี อุปสมบท ณ วัดคงคาวดี (วัดกลาง) ปีเถาะ พ.ศ.2446 พระครูสมัยนั้น เป็นพระอุปัชฌายะ พระครูบริหารสังฆกิจ (เต็ง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระเกื้อเป็นพระกรรมวาจา ได้รับฉายาว่า "อินทมุนี"ได้ปรนนิบัติรับใช้ รับฟังโอวาทจากพระอุปัชฌายะชั่วระยะเวลาหนึ่ง หลังจากนั้น หลวงปู่เขียว ก็กราบลาพระอุปัชฌายะ ไปศึกษาเล่าเรียนต่อกับพระอาจารย์เอียด วัดบน พระอาจารย์เอียดเก่งทั้งทางโลก และทางธรรม อบรมนิสัยให้เหมาะแก่สมณเพศ จนท่านตั้งใจว่า ขอถือบวชอยู่ในพุทธศาสนาตลอดไป หาทางพ้นทุกข์ตัดอาสวะกิเลสให้สิ้น หลวงปู่เขียวท่านตัดสินใจเดินธุดงค์เป็นวัตร คือ ถือผ้านุ่งห่มบังสุกุล 3ชิ้น มีผ้าสบง อังสะ จีวร บิณฑบาต และฉันอาหารมื้อเดียว(เอกา)เป็นวัตร จึงกราบลาอาจารย์เดินธุดงค์สู่ป่าเขาลำเนาไพร หลวงปู่เขียวเดินธุดงค์ติดต่อกันหลายปี ผ่านจังหวัดกระบี่ ตรังสุราษฎร์ธานี ชุมพร สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ภูเก็ต พังงา และจังหวัดอื่นๆอีกหลายแห่ง
ในปี พ.ศ.2467 หลวงปู่เขียวอายุ ได้ 53 ปีพอดี
ท่านพระครูพิบูลย์ศีลาจารย์(เกลื่อม)เจ้าคณะ ต.บางตะพง อ.ปากพนัง
ปกครองวัดกลาง(คงคาวดี)ศรัทธาต่อหลวงปู่เขียว ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่านเอง
ต้องการได้ของดีของอาจารย์เป็นที่ระลึก จึงหาผ้าขาวมา หาขมิ้นผงมาผสมน้ำทาใต้เท้า
ใต้มือท่านแล้ว นิมนต์ท่านอฐิษญานจิตกดเป็นผ้ายันต์แต่ไม่ค่อยชัดนัก ต่อมามีผู้ต้องการมากขึ้น
จึงคิดหาหมึกจีนเป็นแท่งมาฝนกับฝาละมีทาเท้าบ้าง ทามือบ้าง
ให้หลวงปู่อธิษฐานจิตกดลงบนผ้าขาวเป็นผ้ายันต์ ปรากฏว่าชัดเจนสวยงามดี นับว่าผ้ายันต์รอยมือรอยเท้าหลวงปู่เขียวปรากฏ
แพร่หลายขึ้นเป็นครั้งแรกในภาคใต้ เมื่อมีผู้ศรัทธามาขึ้นจึงแพร่หลายบอกต่อกันไป
มีประชาชนมาขอลูกอมท่านบ้าง หลวงปู่เขียวท่านเคี้ยวชานหมากเสร็จคลึงเป็นลูกอมแล้วมอบให้
บางคนท่านก็เอากระดาษฟางมาลงอักขระเป็นตัวหนังสือขอม หัวใจพระเจ้า 5พระองค์ นะโมพุทธายะ เสร็จแล้วเอาเทียนสีผึ้งห่อหุ้มปั้นเป็นลูกอม หลวงปู่เขียวเป็นพระใจดี
พูดน้อยใครขออะไรท่านก็จะทำให้ตามความต้องการแต่ละคน
วัตถุมงคล
และพระเครื่องของหลวงปู่เขียว ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ด้านปกป้องคุ้มครองสูงมาก เช่นผ้ายันต์รอยมือรอยเท้าผู้ที่โดนโจรปล้นวัวเกิดต่อสู้กัน
เจ้าของวัวพกผ้ายันต์ท่าน กระสุนก็ไม่อาจทำอะไรคนที่พกผ้ายันต์ท่านได้ ซึ่งพุทธคุณพระเครื่องที่ท่าน ปลุกเสกนั้น
โด่งดังไปไกลทั่วประเทศเป็นที่เล่าขานสืบต่อมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าด้านคงกระพัน
มหาอุด หรือเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ถือว่า หลวงปู่เขียว วัดหรงบล เป็นสุดยอดเกจิอันดับต้นๆของภาคใต้
"หลวงปู่เขียว" ท่านมรณภาพ ในปี พ.ศ.2519 ตรงกับวันเสาร์
ขึ้น 1ค่ำ เดือน 7 ด้วยโรคชราตามสังขารอายุ
รวมได้ 95ปี 74 พรรษา
ความศักดิ์สิทธิ์ของ หลวงปู่เขียว วัดหรงบล อีก อย่างหนึ่งที่เกือบทุกคนรู้กันดีทั่วบ้านทั่วเมือง ก็คือหลังจากหลวงปู่เขียวท่านมรณภาพแล้ว
ทางวัดได้เก็บรักษาสรีระของหลวงปู่ไว้ระยะหนึ่ง ซึ่งปรากฏว่า สรีระร่างกายของหลวงปู่เขียวท่านไม่เน่าเปื่อย
และไม่มีกลิ่นเหม็นแต่อย่างใด และเมื่อถึงวันครบกำหนดประชุมเพลิง สรีระของท่านเผาไฟไม่ไหม้
แม้แต่ จีวร ที่ห่อหุ้ม สร้างความมหัศจรรย์เป็นยิ่งนัก ปัจจุบัน
สรีระร่างอันอมตะของ หลวงปู่เขียว ก็ยังประดิษฐานอยู่ในครอบแก้วที่วัดหรงบล ทุกวันนี้จะมีผู้คนไปกราบไหว้สักการบูชาอยู่เป็นประจำ.........
--------------------------------------------------------------------------------------------
หลักการเล่นพระประเภทเหรียญก่อนปีพ.ศ. ๒๔๙๐
การเล่นพระประเภทเหรียญ เรียงลำดับความสำคัญความแท้
๑.ต้องเรียนรู้เข้าใจเรื่องเนื้อโลหะไม่ว่าจะเป็นเนื้อทองแดงหรือเนื้อเงิน
๒.เข้าใจธรรมชาติทางกายภาพของเหรียญว่าควรเป็นเช่นไร
๓.ต้องเข้าใจสนิมเหรียญที่กินลงไปในเนื้อพระสำหรับเหรียญที่ผ่านการล้างมาแล้ว
๔.เรียนรู้เรื่องการตัดขอบเหรียญ/เหรียญปั้ม/เลื่อยฉลุออกมา
ว่าต้องเป็นเช่นไร
๕.เรียนรู้เรื่องตำหนิต่างๆของเหรียญ ควรมีให้มากแต่ไม่ต้องมีครบ
๖.ข้อนี้สำคัญยิ่งสุดคือการเรียนรู้ ลอยผิวพลิ้ว/ขนแมว/เสี้ยนของการปั้มเหรียญ
โดยการส่องดูผิวพระให้เอียงกับแสงไฟ
พระที่ปั้มออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันมักจะมีทิศทางไปในแนวเดียวกัน
เสี้ยนพระมักอยู่ทางขอบๆเหรียญหรือทางหูเหรียญ/ขนแมวมักอยู่ตามพื้นเหรียญ/ลอยผิวพลิ้วมักมองเห็นไปในทิศทางเดียวกันอยู่บนผิวพระเสมอถ้ามองให้เอียงกับแสงไฟ
ถ้าเข้าใจข้อหกนี้ดี คือท่านได้เหรียญแท้แน่นอนไม่มีเก๊
เพราะแม่พิมพ์คนละตัวย่อมเกิด ลอยผิวพลิ้วไม่เหมือนกัน
๗.ข้อยกเว้นก็มีถ้าหากมีการแก้ไขแม่พิมพ์
เรื่องนี้ต้องศึกษาจากประวัติการสร้างเหรียญ
เจ็ดข้อนี้ดี ท่านนำไปศึกษาให้แตกฉานแล้วท่านจะได้เหรียญแท้แน่นอนไม่ต้องพึ่งพาใคร
เพราะของแท้พิสูจน์ได้ตามหลักการวิทยาศาสตร์กายภาพและประวัติการสร้างเหรียญอีกร้อยวันพันปีก็เป็นของแท้
ไม่พึ่งนิยาย/พงศวดารหรือเรื่องพิสดารเล่าขาน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
***ระวังเซียนพระที่ออกหนังสือเอง
เพราะพวกนี้ทำพระเก๊เอง และเอาพระเก๊มาชี้ตำหนิ ทำให้พระแท้เสียมวยมามากแล้ว
ยิ่งพวกเซียนพระจับกลุ่มจับพวกพวกนี้คือตัวชั่วช้าของวงการพระเครื่อง
ท่านต้องระวังเป็นพิเศษ มันเอาเฉพาะเงิน/การตลาดเก่ง/นิยายเยอะ คนรวยๆเสียมวยมามาก
ยามต้องการเงินลองเอาไปขายคืนมัน จะล้มทั้งยืนเลยละ
ถ้าท่านไม่เชื่อผมลองสอบถามคนเคยรวยที่ซื้อพระแพงดู แล้วท่านจะได้ตาสว่างขึ้นมากๆ
ภาพประกอบ
ม.โชคชัย ทรงเสี่ยงไชย
--------------------------------------------------------------------------------------------
ผมมีอยุ่1องรุ้นนี้และติดต่อขอชมได้แต่ผมสงใสทำไมเหรียนหอมมาก
ตอบลบ0631029360
ลบ