รายได้ชาวบ้าน10คนเลี้ยงดูข้าราชการได้1คน
รายได้ชาวบ้าน10คนเลี้ยงดูข้าราชการได้1คน : กระดานความคิด โดยพลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ http://www.oknation.net/blog/nunrimfar
"ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวมาปิดก็ไม่มิด"
เป็นสุภาษิตโบราณที่มีมานานแล้ว แต่ก็มีคนมักจะถามว่า
จะเอาอะไรมาปิดถึงจะมิดละ คำตอบ คือ "เอามือปิดตาเราเอง" แค่นั้น
ก็มิดแล้วครับ
ตอนนี้สภาพของรัฐบาล ก็เหมือน "ช้างตาย" เอาใบบัวปิด แต่ทำไมนายกฯ จึงไม่รู้ถึงสภาพที่แท้จริงของรัฐบาล ทั้งๆ ที่คนในรัฐบาล หลายคนเริ่มได้กลิ่นกันแล้ว หลายคนเริ่มขยับระยะให้ห่างออกจากรัฐบาล บางคนถึงกับหาคนมาสนับสนุนรัฐบาล ส่วนข้าราชการก็เริ่มถอยหลังออกจากรัฐบาลแล้ว แต่ที่นายกฯไม่รู้เรื่องเหล่านี้ ก็เพราะ "นายกฯ เอามือปิดตาตัวเองไว้" นั่นเอง
ลองมาดูว่าสถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร ช้างตายทั้งตัวมันจะเหม็นขนาดไหนครับ เมื่อรัฐบาลคิดว่าสามารถคุมอำนาจไว้ได้แน่นอน จะทำอะไรก็ได้ ถ้าทหารไม่ปฏิวัติ(จากเทปถั่งเช่า) รัฐบาลก็ลุยทุกเรื่อง ตั้งแต่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม, แก้รัฐธรรมนูญ ในเรื่องที่มาของ ส.ว. เพื่อให้มีสภาผัวเมียเกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง, แก้มาตรา 190 เพื่อให้มีการทำธุรกรรมกับต่างชาติได้โดยไม่ต้องผ่านสภา
นอกจากนั้น ยังออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เพิ่มเข้าไปอีก รวมถึงการโยกย้ายข้าราชการแบบไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องความเหมาะสมอีกมากมาย จึงเป็นจุดกำเนิดของขบวนการต่อสู้ภาคประชาชนหลายสิบกลุ่ม ในที่สุดได้รวมกันเป็นกลุ่ม กปปส. ซึ่งรัฐบาลก็ยังไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
ปัจจุบัน การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.เติบโตเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ จนรัฐบาลไม่สามารถจะควบคุมได้แล้ว และยังมีแนวโน้มว่า ยังมีประชาชนที่จะออกมาร่วมเพิ่มขึ้นๆ อีกอย่างแน่นอน ในขณะที่ ป.ป.ช., ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครอง ก็ชี้มูลความผิดพลาดของรัฐบาล เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
มากมายขนาดที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหน ที่อ้างว่าปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย จะทำผิดมากมายขนาดนี้ ที่รัฐบาลยังสามารถสั่งงานอยู่ได้ ก็เพราะ ข้าราชการเรายังหวาดกลัวอำนาจรัฐอยู่ แต่ที่จริงแล้วกลัวจะตกงาน หรือไม่ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน พูดง่ายๆ ก็คือ "ห่วงตัวเองมากกว่าชาติ" นั่นเอง
ในข้อเท็จจริงแล้ว ข้าราชการนั้นอยู่ได้ด้วยประชาชน คิดกันคร่าวๆ รายได้ของประชาชน ประมาณ 10 คนจะเลี้ยงดูข้าราชการได้ 1 คน
ดังนั้น การต่อสู้คราวนี้ถ้าไม่ชนะ ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนยังพอจะทนอยู่ได้ แต่ "ข้าราชการจะถูกกำจัดออกก่อน" เพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาล ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมากมายในหลายสิบประเทศ ตอนนี้ถ้าไม่มีการชุมนุมของ กปปส.อยู่ "ค่ายาของข้าราชการ" ก็จะถูกลดชั้นลงไปแล้ว ลงไปอีกมากมาย อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นจะเบิก ของดีไม่ได้ ให้ไปใช้ของจีนแทน รวมทั้งยาด้วย และยังมีอะไรอีกมากมาย ถ้าอยู่เฉยแล้วอย่านึกว่าจะรอดนะครับ
กปปส.ปิดกรุงเทพฯ ครั้งนี้มีจุดประสงค์หลักอยู่ที่การช่วยเหลือให้ข้าราชการสามารถหยุดงานได้ อย่างมีเหตุผลเท่านั้น เมื่อไม่มีข้าราชการรัฐบาลนี้ก็จบครับ ดังนั้น การออกมาเท่ากับช่วยทั้งชาติ และช่วยตัวเองด้วย
ส่วนทางรัฐบาลนั้น ต้องดูเลยไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลที่อยู่นอกประเทศ ว่าจะยอมแพ้ตามหรือเปล่า ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่ายังไม่ยอม จากการเปลี่ยนสีเสื้อแดงมาเป็นขาว, ให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ออกมาช่วยงาน, การจัดชุมนุมของเสื้อขาว(แดง)รอบกรุงเทพฯ, การเรียกหาสหประชาชาติมาหนุนให้มีการเลือกตั้ง ฯลฯ ดังนั้น การหยุดสนับสนุนรัฐบาลของฝ่ายข้าราชการจึงสำคัญมาก
ตอนนี้สภาพของรัฐบาล ก็เหมือน "ช้างตาย" เอาใบบัวปิด แต่ทำไมนายกฯ จึงไม่รู้ถึงสภาพที่แท้จริงของรัฐบาล ทั้งๆ ที่คนในรัฐบาล หลายคนเริ่มได้กลิ่นกันแล้ว หลายคนเริ่มขยับระยะให้ห่างออกจากรัฐบาล บางคนถึงกับหาคนมาสนับสนุนรัฐบาล ส่วนข้าราชการก็เริ่มถอยหลังออกจากรัฐบาลแล้ว แต่ที่นายกฯไม่รู้เรื่องเหล่านี้ ก็เพราะ "นายกฯ เอามือปิดตาตัวเองไว้" นั่นเอง
ลองมาดูว่าสถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร ช้างตายทั้งตัวมันจะเหม็นขนาดไหนครับ เมื่อรัฐบาลคิดว่าสามารถคุมอำนาจไว้ได้แน่นอน จะทำอะไรก็ได้ ถ้าทหารไม่ปฏิวัติ(จากเทปถั่งเช่า) รัฐบาลก็ลุยทุกเรื่อง ตั้งแต่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม, แก้รัฐธรรมนูญ ในเรื่องที่มาของ ส.ว. เพื่อให้มีสภาผัวเมียเกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง, แก้มาตรา 190 เพื่อให้มีการทำธุรกรรมกับต่างชาติได้โดยไม่ต้องผ่านสภา
นอกจากนั้น ยังออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เพิ่มเข้าไปอีก รวมถึงการโยกย้ายข้าราชการแบบไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องความเหมาะสมอีกมากมาย จึงเป็นจุดกำเนิดของขบวนการต่อสู้ภาคประชาชนหลายสิบกลุ่ม ในที่สุดได้รวมกันเป็นกลุ่ม กปปส. ซึ่งรัฐบาลก็ยังไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
ปัจจุบัน การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.เติบโตเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ จนรัฐบาลไม่สามารถจะควบคุมได้แล้ว และยังมีแนวโน้มว่า ยังมีประชาชนที่จะออกมาร่วมเพิ่มขึ้นๆ อีกอย่างแน่นอน ในขณะที่ ป.ป.ช., ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครอง ก็ชี้มูลความผิดพลาดของรัฐบาล เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
มากมายขนาดที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหน ที่อ้างว่าปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย จะทำผิดมากมายขนาดนี้ ที่รัฐบาลยังสามารถสั่งงานอยู่ได้ ก็เพราะ ข้าราชการเรายังหวาดกลัวอำนาจรัฐอยู่ แต่ที่จริงแล้วกลัวจะตกงาน หรือไม่ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน พูดง่ายๆ ก็คือ "ห่วงตัวเองมากกว่าชาติ" นั่นเอง
ในข้อเท็จจริงแล้ว ข้าราชการนั้นอยู่ได้ด้วยประชาชน คิดกันคร่าวๆ รายได้ของประชาชน ประมาณ 10 คนจะเลี้ยงดูข้าราชการได้ 1 คน
ดังนั้น การต่อสู้คราวนี้ถ้าไม่ชนะ ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนยังพอจะทนอยู่ได้ แต่ "ข้าราชการจะถูกกำจัดออกก่อน" เพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาล ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นมากมายในหลายสิบประเทศ ตอนนี้ถ้าไม่มีการชุมนุมของ กปปส.อยู่ "ค่ายาของข้าราชการ" ก็จะถูกลดชั้นลงไปแล้ว ลงไปอีกมากมาย อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นจะเบิก ของดีไม่ได้ ให้ไปใช้ของจีนแทน รวมทั้งยาด้วย และยังมีอะไรอีกมากมาย ถ้าอยู่เฉยแล้วอย่านึกว่าจะรอดนะครับ
กปปส.ปิดกรุงเทพฯ ครั้งนี้มีจุดประสงค์หลักอยู่ที่การช่วยเหลือให้ข้าราชการสามารถหยุดงานได้ อย่างมีเหตุผลเท่านั้น เมื่อไม่มีข้าราชการรัฐบาลนี้ก็จบครับ ดังนั้น การออกมาเท่ากับช่วยทั้งชาติ และช่วยตัวเองด้วย
ส่วนทางรัฐบาลนั้น ต้องดูเลยไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลที่อยู่นอกประเทศ ว่าจะยอมแพ้ตามหรือเปล่า ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่ายังไม่ยอม จากการเปลี่ยนสีเสื้อแดงมาเป็นขาว, ให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ออกมาช่วยงาน, การจัดชุมนุมของเสื้อขาว(แดง)รอบกรุงเทพฯ, การเรียกหาสหประชาชาติมาหนุนให้มีการเลือกตั้ง ฯลฯ ดังนั้น การหยุดสนับสนุนรัฐบาลของฝ่ายข้าราชการจึงสำคัญมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น