วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

Posted by jk ,


       
      ห ลังธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ สั่งอายัดเงินในบัญชีสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.รวมทั้งครัวราชดำเนิน เงินสดหลายล้าน ก็สะพัดเข้าสู่ กปปส.
       ทั้งในรูปการบริจาคบนเวที ทั้งในรูปการหยิบยื่นใส่ในถุงพลาสติกระหว่าง การเดินขบวนชวนแขก  ในกรุงเทพ ทั้งในการรวบรวมมาจากกลุ่ม สถาบันต่างๆ มามอบให้สุเทพ เทือกสุบรรณ  ถึงกระนั้นสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ยังถูกกล่าวหา
         กล่าวหาว่าเขาหว่านโปรยเงินหลายสิบล้านไว้ล่วงหน้า แล้วไปตามเก็บคืน
         กล่าวหาว่าเขาจ้างคนไปชุมนุม คล้ายที่คนเสื้อแดงจ้างกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่เป็นคนรากหญ้าไปร่วมชุมนุม
          สุเทพ เทือกสุบรรณนั้น มิได้ยากจน ข้นแค้น กำนันสุเทพ นับว่าเป็นคหบดีมีสตางค์คนหนึ่ง เขามี บริษัท สุราษฎร์ ฮอท สปริงการ์เดน จำกัด จดทะเบียนวันที่ 4 ตุลาคม 2534 ทุน 1 ล้านบาท  บริษัท สุราษฎร์ โกลเด้น แลนด์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 4 ตุลาคม 2534 ทุน 160 ล้านบาท บริษัท ศรีสุบรรณ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 4 ตุลาคม 2538 ทุน 10 ล้านบาท บริษัท ที.เค.โกลบอล เทรดดิ้ง จำกัด จดทะเบียนวันที่ 26 กันยายน 2544 (เลิก) ทุน 15 ล้านบาท บริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด จดทะเบียนวันที่ 10 กรกฎาคม 2546 ทุน 200 ล้านบาท
          บริษัท ท่าสะท้อนปาล์ม จำกัด จดทะเบียนวันที่ 19 ธันวาคม 2550 (เลิก)ทุน 5 ล้านบาท บริษัท กีฬา สุราษฎร์ธานี จำกัด จดทะเบียนวันที่ 5 เมษายน 2553 ทุน 2 ล้านบาท และบริษัท ร้อยเกาะ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 ทุน 1 ล้านบาท
            แต่หากเปรียบเทียบกับความเป็นธนราชันย์ หากเปรียบเทียบกับความร่ำรวยไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว เปรียบเทียบวิธีการได้มาซึ่งเงินทอง มิอาจเทียบได้กับทักษิณ ชินวัตรเลย
             โดยเฉพาะการได้มาซึ่งเงินทองไม่สุจริต การได้มาด้วยความคดโกง และด้วยเงินจำนวนนั้นถูกหว่านโปรยให้กับนักการเมืองในสังกัด ให้กับแกนนำ นปช.ซึ่งร่ำรวย มีฐานะกันทั่วหน้า และหว่านโปรยให้กับการจ้างวานให้คนสวามิภักดิ์ ทั้งในรูปการบริจาค การหยิบยื่นให้เมื่อมีการร้องขอ
                น่าสงสัยว่า เหตุใด คนๆหนึ่ง ถูกยึดทรัพย์ไปถึง 4 หมื่นล้าน ยังคงร่ำรวยมหาศาล ยังคงมีเงินจับจ่ายใช้สอย มีเงินให้เป็นทุนสำหรับการซื้อประเทศไทย
               เพราะตลอดระยะเวลาที่อยู่ในอำนาจทักษิณ คิดอย่างเดียวว่า จะใช้อำนาจไปแสวงหาผลประโยชน์อย่างไร
                      อย่าได้สงสัยเลยว่า เหตุใดทักษิณ ชินวัตร ยังมีเงินซุกอยู่ในต่างแดนนับแสนล้าน ยังไม่รวมเงินอีกมากมายมหาศาล ที่ฝากไว้ในกระเป๋าผู้ใกล้ชิดในประเทศไทย เพราะเขาคืออินไซเดอร์ตัวฉกาจ ที่เรียนรู้การใช้ความสัมพันธ์เชิงอำนาจและผลประโยชน์ สร้างความร่ำรวยให้กับตัวเองและพวกพ้อง โดยเฉพาะเงินก้อนใหญ่ที่ได้มาจากการล่วงรู้ข้อมูลภายใน ในการลดค่าเงินบาท เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ในขณะที่เขาอยู่ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
               เพราะในขณะที่ ธุรกิจทั้งหลายล้มระเนนระนาด หลังการประกาศลอยตัวค่าเงินบาท หรือลดค่าเงินบาท ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 โดยรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หากแต่ธุรกิจในเครือข่ายชินวัตรคอมพิวเตอร์ กลับมั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น
          การซื้อประกันความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ก่อนหน้าการประกาศลอยค่าเงินของรัฐบาล โดยทักษิณ ชินวัตร ย่อมเป็นคำอธิบายที่ชัดเจนยิ่งแล้ว
          แบงก์ชาติได้ลงมติตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2540 เห็นชอบในการประกาศลอยตัวค่าเงินบาท จากนั้นจึงได้เสนอพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี ระหว่างนั้นรัฐบาลยืนยันหนักแน่นว่า จะไม่มีการลดค่าเงินบาทอย่างเด็ดขาด สัญญาณที่ส่งมาตรงกันข้ามกับความเป็นจริงนั้น ทำให้บรรดาผู้ประกอบการธุรกิจ วางใจและมิได้ตั้งรับมรสุมเศรษฐกิจที่ถาโถมมาอย่างฉับพลันในเวลาต่อมา
            ภายหลังเกิดเหตุ มีการตั้งข้อสังเกตุในการใช้ข้อมูลภายใน หรืออินไซเดอร์ มาปกป้องธุรกิจของตัวเอง ขณะเดียวกันก็เป็นการฉกฉวยโอกาสสร้างความร่ำรวยอย่างทันตาเห็น เพียงใช้เงินบาทที่ยังแข็งค่าอยู่ ไปกวาดซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐมากักตุนไว้
                    นี่เป็นตัวอย่างเดียวของความฉ้อฉลของทักษิณ ชินวัตร
                    ธนราชันย์ ที่ซื้อทุกอย่างด้วยเงิน        

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น