|
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย (แฟ้มภาพ) |
|
|
เอเอฟพี - สำนักข่าวเอเอฟพีเผยแพร่บทความพิเศษ
ชี้ว่าพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชันของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
เป็นสาเหตุหลักที่กระตุ้นให้คนไทยนับล้านออกมาขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์
ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาว
ขณะที่ผู้ชุมนุมทราบดีว่าการทุจริตเป็นปัญหาเรื้อรังในสังคมไทยที่ยากจะ
แก้ไข แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีนักการเมืองยุคไหนโกงสะบัดเท่า “ระบอบทักษิณ”
เอเอฟพีรายงานว่า
การเมืองของไทยมีความผูกพันอย่างซับซ้อนกับพฤติกรรมคอร์รัปชัน
ซึ่งมีสาเหตุมาจากระบบบริหารราชการที่อ่อนแอ,
เครือข่ายอุปถัมภ์ของนักการเมือง และทัศนคติของคนทั่วไปที่มองว่าการจ่าย
“เงินใต้โต๊ะ” เพื่อให้งานเดินหน้า เป็นธรรมเนียมปกติ
วรนัย วาณิชกะ นักเขียนและคอลัมนิสต์จากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์
เอ่ยถึงการชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่กำลังเกิดขึ้นในไทยว่า
กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เพื่อขุดรากถอนโคนอิทธิพลของ
ทักษิณ ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าได้ละเมิดขอบเขตของการ “โกง”
เท่าที่สังคมไทยจะรับได้
“คนไทยเราเข้าใจความเป็นจริง...
เรารู้ว่าทุกคนย่อมอยากจะได้ส่วนแบ่ง “แอปเปิล” คนละนิดคนละหน่อย...
แต่ปัญหาของคุณทักษิณก็คือ เขาเอาป้ายไปปักไว้ที่ต้นแอปเปิลว่าเป็น
“ทรัพย์สินของตระกูลชินวัตร”
ซึ่งการทำเช่นนี้ในเมืองไทยถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก” วรนัยกล่าว
ฝ่ายที่เกลียดชังรัฐบาลเชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์
เป็นเพียงหุ่นเชิดของอดีตนายกฯทักษิณ ซึ่งถูกกองทัพก่อรัฐประหารไปเมื่อปี
2006
และปัจจุบันก็ยังคงกบดานอยู่ในต่างประเทศเพื่อหนีโทษจำคุกฐานใช้อำนาจโดยมิ
ชอบ
ผู้ประท้วงยังโจมตีเรื่องที่อาณาจักรธุรกิจของทักษิณเคยโกงบ้านกิน
เมือง รวมไปถึงข้อเสียของนโยบายประชานิยม และ “การซื้อเสียง”
ที่พวกเขาอ้างว่า เป็นเหตุให้ทักษิณและพวกชนะเลือกตั้งได้ทุกสมัย
“ทักษิณมันโกงมากไป และข้อผิดพลาดที่สุดก็คือ มันโกงแบบจะจะ
ให้ทุกคนเห็นด้วย” ร็อกกี วัย 24 ปี
หนึ่งในผู้ประท้วงที่ออกมาร่วมเดินขบวนปิดกรุงเทพมหานครเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
กล่าว
|
|
สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่แกนนำกลุ่ม กปปส. ขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร |
|
|
แกนนำผู้ชุมนุมพยายามชูแนวคิดดังกล่าวเพื่อบอกให้สาธารณชนทราบว่า
พวกเขากำลังทำ “สงครามต่อต้านคอร์รัปชัน”
ขณะเดียวกันก็กดดันให้กองทัพและองค์กรอิสระหันมาร่วมคว่ำบาตรสนามเลือกตั้ง
วันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเชื่อว่าหากเกิดขึ้นจริง
น.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยก็จะเป็นฝ่ายชนะตามเคย
นโยบายประชานิยมของทักษิณทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบในแถบจังหวัดภาค
เหนือซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา และในหมู่ชนชั้นกรรมาชีพซึ่งมีรายได้น้อย
แต่ขณะเดียวกันก็เป็นที่เกลียดชังของชนชั้นกลางในกรุงเทพมหานคร
รวมไปถึงคนใต้และผู้ที่เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
หลังหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
อดีตมหาเศรษฐีโทรคมนาคมก็ถูกศาลตัดสินลับหลังจำเลยให้จำคุก 2
ปีในคดีทุจริตประมูลซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก ซึ่งมีคุณหญิงพจมาน
ชินวัตร ภรรยาของเขา ตกเป็นจำเลยร่วมด้วย
ต่อมาในปี 2010
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษายึดทรัพย์
มูลค่า 46,373 ล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ตกเป็นของแผ่นดิน
หลังพบว่ามีความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษีกรณีการขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชัน
ในขณะที่เขายังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทักษิณ ยังยืนยันว่าเขาบริสุทธิ์จากข้อกล่าวหาทั้งปวง และเป็นเพียง “เหยื่อ” การเมืองเท่านั้น
นพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของทักษิณ ชี้ว่าแกนนำผู้ประท้วงใช้ข้อหาคอร์รัปชันมาเป็นเครื่องดึงดูดมวลชนให้เข้าร่วม
“แต่การกล่าวหาว่าครอบครัวชินวัตรผูกขาดการทุจริตฝ่ายเดียว ถือว่าไม่มีเหตุผล” นพดลกล่าวเสริม
อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้อดีตนายกฯ ของไทยถูกวิจารณ์อย่างมากก็คือ
นโยบายเศรษฐกิจแบบ “ทักษิโณมิกส์”
ซึ่งเน้นการใช้จ่ายงบประมาณมหาศาลไปกับโครงการประชานิยม เช่น รักษาโรคฟรี,
ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ รวมไปถึงโครงการรับจำนำข้าว
|
|
กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ประกาศจุดยืน ไม่เอาการทุจริตคอร์รัปชัน |
|
|
สำหรับโครงการจำนำข้าวที่ริเริ่มโดยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์
นั้นถูกโจมตีมากเป็นพิเศษ จากตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตอย่างกว้างขวาง
และทำให้ประเทศต้องสูญเงินคงคลังนับพันๆ ล้านดอลลาร์
เพียงเพื่อรักษาฐานเสียงในชนบทของพรรคเพื่อไทย
หากว่ากันตามความเป็นจริง มีนักการเมืองไทยเพียงไม่กี่คนที่ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักการเมืองขวานผ่าซากผู้ได้รับฉายาว่า
“เสี่ยอ่าง” ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่า เคยจ่าย “สินบน”
ให้เจ้าหน้าที่รัฐสมัยยังทำกิจการอาบอบนวด
แม้แต่ สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
ผู้ยอมสละตำแหน่งทางการเมืองเพื่อมาเป็นแกนนำขับไล่รัฐบาลและ “ปิดกรุงเทพ”
อยู่ในเวลานี้ ก็ยังเคยต้องคดีทุจริตที่ดิน ส.ป.ก. 4-01
ซึ่งทำให้กลุ่มคนรวยได้เข้าไปถือกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ควรจะเป็นของชาวบ้านยาก
จน คดีดังกล่าวยังส่งผลลุกลามจนต้องมีการยุบสภาเกิดขึ้น
อย่างไรก็ดี บางคนมองว่าการที่ สุเทพ
เปลี่ยนบทบาทจากนักการเมืองประวัติเสียมาเป็น “วีรบุรุษต้านคอร์รัปชัน”
ในวันนี้
ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสังคมไทยทนรับพฤติกรรมทุจริตของนักการเมืองไม่ได้อีก
ต่อไป
“คุณสุเทพไม่ได้สมบูรณ์แบบ... แต่เขาก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง
และตัดสินใจมาเป็นแกนนำผู้ชุมนุม ซึ่งหลังจากนี้เขาก็จะเกษียณ
ไม่เล่นการเมืองอีกต่อไป” ม.ร.ว.อมรรัตน์ กฤดากร
ซึ่งเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย
ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)
ให้สัมภาษณ์
องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International)
ซึ่งจัดทำดัชนีภาพลักษณ์การคอร์รัปชัน (Corruption Perceptions Index -
CPI) ได้ให้คะแนนความโปร่งใสของประเทศไทยเพียง 35 เต็ม 100
หรือไม่ถึงครึ่งในปี 2013 อยู่ในลำดับที่ 102 จากทั้งหมด 177
ประเทศที่ทำการสำรวจ และร่วงลงจากปีก่อนหน้าถึง 14 อันดับ
ผลสำรวจโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเมื่อไม่นานนี้ยังพบว่า
เจ้าของธุรกิจไทยมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้แก่ข้าราชการในอัตรา 25-35%
ของมูลค่าสัญญา เพิ่มขึ้นจากสถิติ 5-10% ในปี 1990
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น