วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ที่เที่ยวสุดฮิตเมืองเชียงใหม่ หนาวนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว

ฤดูหนาวมาเยือนเราอีกครั้ง หลายคนเตรียมแพ็คกระเป๋ามุ่งหน้าสู่เมืองเหนือ และจังหวัดสุดฮิตที่ไม่เคยตกอันดับนั่นก็คือเชียงใหม่ที่ไปกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ เชียงใหม่มีอะไรดีถึงทำให้นักท่องเที่ยวติดใจ ไปแอ่วกันเลย
พระบรมธาตุดอยสุเทพ:  เป็น ปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งของเมืองเชียงใหม่ ประดิษฐานอยู่บนดอยสุเทพ สูงจากระดับน้ำทะเล 1000 เมตร ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเมือง ห่างจากตัวเมืองเก่าประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถมองเห็นจากตัวเมืองได้ชัดเจน และเมื่อขึ้นไปอยู่ที่พระบรมธาตุ ก็จะเห็นตัวเมืองเชียงใหม่ได้ทั้งหมด มีบันไดนาคเจ็ดเศียรทอดจากทางขึ้นไปถึงซุ้มประตูวัด จำนวน 300 ขั้น องค์พระบรมธาตุสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1916 โดยพระเจ้ากือนา กษรัตริย์องค์ที่ 6 ของราชวงค์เม็งราย เพื่อบรรจุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียรของพระพุทธเจ้า ต่อมาครูบาศรีวิชัยได้บอกบุญชักชวนชาวเหนือ ให้ช่วยกันสร้างถนนจากเชิงดอยไปจนถึงยอดดอย ณ ที่ตั้งพระบรมธาตุ องค์พระบรมธาตุประดิษฐานอยู่ใต้ดินลึกลงไป 8 ศอก ดังนั้นจึงห้ามมิให้สตรีเข้าไปภายในฐานเจดีย์ และก่อนที่จะเข้าสู่ภายในบริเวณองค์พระบรมธาตุ ต้องถอดรองเท้าไว้ที่เชิงบันไดเสียก่อน ในวันวิสาขบูชาของทุกปี หรือวันเพ็ญเดือน 6 จะมีประเพณีการเดินขึ้นดอยสุเทพเป็นประจำ เพื่อนมัสการพระธาตุดอยสุเทพถือเป็นสิริมงคลและได้กุศลแรง
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร: ตั้ง อยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ เป็นเจดีย์ใหญ่ที่สูงที่สุดของอาณาจักรล้านนา สร้างขึ้นในรัชกาลพระเจ้าแสนเมืองมากษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย (พ.ศ.1913-1954) ต่อมาพระยาติโลกราชโปรดให้ช่างขยายเจดีย์ให้สูงและกว้างกว่าเดิม แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2024 และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานระหว่าง พ.ศ.2011-2091 นานถึง 80 ปี ต่อมาในสมัยพระนางจิระประภา ได้เกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี พ.ศ. 2088 ทำให้ยอดเจดีย์หักโค่นลง ปัจจุบันเจดีย์มีความสูงคงเหลือ 40.8 เมตร ฐานกว้างด้านละ 60เมตร วิหารหลวงของวัดนี้เจ้าคุณอุบาลีคุณปรมาจารย์ (สิริจันทะเถระ) และเจ้าแก้วนวรัฐเป็นผู้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2471 ภายในเป็นที่ประดิษฐานพรอัฏฐารถ หน้าประตูทางเข้าวิหาร มีบันไดนาคเลื้อยงดงามยิ่ง ใช้หางเกี่ยวกระหวัดขึ้นไปเป็นซุ้มประตูวิหาร นาคคู่นี้เป็นฝีมือเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เดิมได้ชื่อว่าเป็นนาคที่สวยที่สุด ของภาคเหนือ ในวัดเจีย์หลวงนี้ยังมี เสาอินทขิล หรือ เสาหลักเมือง สร้างขึ้นเมื่อครั้งพ่อขุนเม็งรายมหาราชสร้างเมืองเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 1839 ประดิษฐานอยู่ในวิหารจตุรมุขทรงไทยหลังเล็กๆ เสาอินทขิลนี้สร้างด้วยไม้ซุงต้นใหญ่ ฝังอยู่ใต้ดิน ทุกปีในวันแรม 12 ค่ำเดือน 8 (เหนือ) หรือประมาณเดือนพฤษภาคมจะมีงานเรียกว่า เข้าอินทขิล เป็นการฉลองหลักเมือง
วัดพระสิงห์วรวิหาร: อยู่ ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง พญาผายูกษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์เม็งรายโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนี้ขึ้น ในปีพ.ศ. 1888 พร้อมทั้งสร้างพระเจดีย์สูง 24 ศอกองค์หนึ่ง เพื่อใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของพญาคำฟู พระราชบิดา มีพระพุทธรูปที่สำคัญอยู่องค์หนึ่งคือพระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปปาง มารวิชัยขัดสมาธิเพชร ตามประวัติเล่าว่าเจ้ามหาพรหมได้เชิญพระสิงห์มาจากเมืองกำแพงเพชรเพื่อถวาย แด่พระเจ้าแสนเมืองมา แต่พอราชรถมาถึงวัดมีเหตุให้ต้องอัญเชิญประดิษฐานไว้ที่นี่ เมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ชาวเมืองจะอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้แห่ไปตามถนนรอบ เมืองเพื่อให้ประชาชนสรงน้ำโดยทั่วกัน  ในวิหารลายคำซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ยังมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง สุพรรณหงส์ และสังข์ทองซึ่งพบเพียงที่นี่แห่งเดียว ยังมีศิลปกรรมอื่นๆ ที่น่าชม ได้แก่ พระอุโบสถตกแต่งแบบศิลปะล้านนา หอไตรประดับด้วยรูปปูนปั้นเทวดา และเจดีย์ทรงกลมแบบล้านนา
สวนสัตว์เชียงใหม่: เป็น สวนสัตว์ขนาดใหญ่ได้รับการจัดสภาพอย่างดี บริเวณกว้างขวาง มีบรรยากาศร่มรื่น และมีสัตว์อยู่มากกว่า 2000ชนิด ทั้งที่มีอยู่ในเมืองไทยและนำมาจากต่างประเทศ ภายในสวนสัตว์ยังมีอุทยานสัตว์น้ำ 700 ปี ศรีนครพิงค์ สวนนกเพนกวิน และสวนนกฟิ้นซ์ซึ่งเป็นนกขนาดเล็กที่มีสีสันสวยงามจนได้รับการขนานนามว่า เป็น อัญมณีบินได้ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-21 น. เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเฝ้าชมพฤติกรรมสัตว์ นอกจากจะมีสัตว์นานา ชนิดแล้วที่สวนสัตว์เชียงใหม่ยังมีหมีแพนด้าจากประเทศจีนให้ชมอีกด้วย โดยเก็บค่าเข้าชมแยกจากบัตรผ่านประตูสวนสัตว์เชียงใหม่ นอกจากนี้ภายในสวนสัตว์ยังมีร้านอาหาร สถานที่แค้มปิ้งพร้อมเต็นท์ ไว้บริการนักท่องเที่ยว ติดต่อจองล่วงหน้าที่ โทร. 0-5322-1179
ถนนคนเดินท่าแพ: เป็น สถานที่ชอปปิ้งสุดฮิตของเมืองเชียงใหม่ เปิดบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ภายในคูเมืองบริเวณถนนราชดำเนิน โดยเริ่มจากประตูท่าแพไปจนถึงสามแยกถนนสามล้าน เป็นการจัดแผงขายสินค้าบริเวณสองฝั่งถนน สินค้าที่นำออกมาวางขายมีมากมายทั้งสินค้าพื้นเมือง สินค้า OTOP และอีกมากมายหลายอย่าง นับว่าเป็นสีสันของการท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงบรรยากาศแบบเมืองเหนือเพราะภายในคูเมืองยัง คงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านเรือนโบราณไว้เป็นอย่างดี ถ้าไปเชียงใหม่คราวนี้แนะนำว่าให้ไปตรงช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ขอบอกว่าอย่าได้พลาดเชียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น