ที่เที่ยวสุดฮิตเมืองเชียงใหม่ หนาวนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว
ฤดูหนาวมาเยือนเราอีกครั้ง หลายคนเตรียมแพ็คกระเป๋ามุ่งหน้าสู่เมืองเหนือ และจังหวัดสุดฮิตที่ไม่เคยตกอันดับนั่นก็คือเชียงใหม่ที่ไปกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ เชียงใหม่มีอะไรดีถึงทำให้นักท่องเที่ยวติดใจ ไปแอ่วกันเลย
พระบรมธาตุดอยสุเทพ: เป็น
ปูชนียสถานที่สำคัญยิ่งของเมืองเชียงใหม่ ประดิษฐานอยู่บนดอยสุเทพ
สูงจากระดับน้ำทะเล 1000 เมตร ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเมือง
ห่างจากตัวเมืองเก่าประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถมองเห็นจากตัวเมืองได้ชัดเจน
และเมื่อขึ้นไปอยู่ที่พระบรมธาตุ ก็จะเห็นตัวเมืองเชียงใหม่ได้ทั้งหมด
มีบันไดนาคเจ็ดเศียรทอดจากทางขึ้นไปถึงซุ้มประตูวัด จำนวน 300 ขั้น
องค์พระบรมธาตุสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1916 โดยพระเจ้ากือนา
กษรัตริย์องค์ที่ 6 ของราชวงค์เม็งราย
เพื่อบรรจุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเศียรของพระพุทธเจ้า
ต่อมาครูบาศรีวิชัยได้บอกบุญชักชวนชาวเหนือ
ให้ช่วยกันสร้างถนนจากเชิงดอยไปจนถึงยอดดอย ณ ที่ตั้งพระบรมธาตุ
องค์พระบรมธาตุประดิษฐานอยู่ใต้ดินลึกลงไป 8 ศอก
ดังนั้นจึงห้ามมิให้สตรีเข้าไปภายในฐานเจดีย์
และก่อนที่จะเข้าสู่ภายในบริเวณองค์พระบรมธาตุ
ต้องถอดรองเท้าไว้ที่เชิงบันไดเสียก่อน ในวันวิสาขบูชาของทุกปี
หรือวันเพ็ญเดือน 6 จะมีประเพณีการเดินขึ้นดอยสุเทพเป็นประจำ
เพื่อนมัสการพระธาตุดอยสุเทพถือเป็นสิริมงคลและได้กุศลแรง
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร: ตั้ง
อยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ เป็นเจดีย์ใหญ่ที่สูงที่สุดของอาณาจักรล้านนา
สร้างขึ้นในรัชกาลพระเจ้าแสนเมืองมากษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย
(พ.ศ.1913-1954)
ต่อมาพระยาติโลกราชโปรดให้ช่างขยายเจดีย์ให้สูงและกว้างกว่าเดิม
แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2024 และอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานระหว่าง
พ.ศ.2011-2091 นานถึง 80 ปี ต่อมาในสมัยพระนางจิระประภา
ได้เกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี พ.ศ. 2088 ทำให้ยอดเจดีย์หักโค่นลง
ปัจจุบันเจดีย์มีความสูงคงเหลือ 40.8 เมตร ฐานกว้างด้านละ 60เมตร
วิหารหลวงของวัดนี้เจ้าคุณอุบาลีคุณปรมาจารย์ (สิริจันทะเถระ)
และเจ้าแก้วนวรัฐเป็นผู้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2471
ภายในเป็นที่ประดิษฐานพรอัฏฐารถ หน้าประตูทางเข้าวิหาร
มีบันไดนาคเลื้อยงดงามยิ่ง ใช้หางเกี่ยวกระหวัดขึ้นไปเป็นซุ้มประตูวิหาร
นาคคู่นี้เป็นฝีมือเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เดิมได้ชื่อว่าเป็นนาคที่สวยที่สุด
ของภาคเหนือ ในวัดเจีย์หลวงนี้ยังมี เสาอินทขิล หรือ เสาหลักเมือง
สร้างขึ้นเมื่อครั้งพ่อขุนเม็งรายมหาราชสร้างเมืองเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ.
1839 ประดิษฐานอยู่ในวิหารจตุรมุขทรงไทยหลังเล็กๆ
เสาอินทขิลนี้สร้างด้วยไม้ซุงต้นใหญ่ ฝังอยู่ใต้ดิน ทุกปีในวันแรม 12
ค่ำเดือน 8 (เหนือ) หรือประมาณเดือนพฤษภาคมจะมีงานเรียกว่า เข้าอินทขิล
เป็นการฉลองหลักเมือง
วัดพระสิงห์วรวิหาร: อยู่
ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง พญาผายูกษัตริย์องค์ที่ 5
ในราชวงศ์เม็งรายโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนี้ขึ้น ในปีพ.ศ. 1888
พร้อมทั้งสร้างพระเจดีย์สูง 24 ศอกองค์หนึ่ง
เพื่อใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของพญาคำฟู พระราชบิดา
มีพระพุทธรูปที่สำคัญอยู่องค์หนึ่งคือพระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปปาง
มารวิชัยขัดสมาธิเพชร
ตามประวัติเล่าว่าเจ้ามหาพรหมได้เชิญพระสิงห์มาจากเมืองกำแพงเพชรเพื่อถวาย
แด่พระเจ้าแสนเมืองมา
แต่พอราชรถมาถึงวัดมีเหตุให้ต้องอัญเชิญประดิษฐานไว้ที่นี่
เมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ชาวเมืองจะอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้แห่ไปตามถนนรอบ
เมืองเพื่อให้ประชาชนสรงน้ำโดยทั่วกัน
ในวิหารลายคำซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ยังมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง
สุพรรณหงส์ และสังข์ทองซึ่งพบเพียงที่นี่แห่งเดียว ยังมีศิลปกรรมอื่นๆ
ที่น่าชม ได้แก่ พระอุโบสถตกแต่งแบบศิลปะล้านนา
หอไตรประดับด้วยรูปปูนปั้นเทวดา และเจดีย์ทรงกลมแบบล้านนา
สวนสัตว์เชียงใหม่: เป็น
สวนสัตว์ขนาดใหญ่ได้รับการจัดสภาพอย่างดี บริเวณกว้างขวาง
มีบรรยากาศร่มรื่น และมีสัตว์อยู่มากกว่า 2000ชนิด
ทั้งที่มีอยู่ในเมืองไทยและนำมาจากต่างประเทศ
ภายในสวนสัตว์ยังมีอุทยานสัตว์น้ำ 700 ปี ศรีนครพิงค์ สวนนกเพนกวิน
และสวนนกฟิ้นซ์ซึ่งเป็นนกขนาดเล็กที่มีสีสันสวยงามจนได้รับการขนานนามว่า
เป็น อัญมณีบินได้ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-21 น.
เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเฝ้าชมพฤติกรรมสัตว์ นอกจากจะมีสัตว์นานา
ชนิดแล้วที่สวนสัตว์เชียงใหม่ยังมีหมีแพนด้าจากประเทศจีนให้ชมอีกด้วย
โดยเก็บค่าเข้าชมแยกจากบัตรผ่านประตูสวนสัตว์เชียงใหม่
นอกจากนี้ภายในสวนสัตว์ยังมีร้านอาหาร สถานที่แค้มปิ้งพร้อมเต็นท์
ไว้บริการนักท่องเที่ยว ติดต่อจองล่วงหน้าที่ โทร. 0-5322-1179
ถนนคนเดินท่าแพ: เป็น
สถานที่ชอปปิ้งสุดฮิตของเมืองเชียงใหม่ เปิดบริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์
ภายในคูเมืองบริเวณถนนราชดำเนิน
โดยเริ่มจากประตูท่าแพไปจนถึงสามแยกถนนสามล้าน
เป็นการจัดแผงขายสินค้าบริเวณสองฝั่งถนน
สินค้าที่นำออกมาวางขายมีมากมายทั้งสินค้าพื้นเมือง สินค้า OTOP
และอีกมากมายหลายอย่าง นับว่าเป็นสีสันของการท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่
ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงบรรยากาศแบบเมืองเหนือเพราะภายในคูเมืองยัง
คงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านเรือนโบราณไว้เป็นอย่างดี
ถ้าไปเชียงใหม่คราวนี้แนะนำว่าให้ไปตรงช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
ขอบอกว่าอย่าได้พลาดเชียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น