วิ่งจับสายหมอก เดินป่า ชมดอกไม้ @ ทุ่งโนนสน อช.ทุ่งแสลงหลวง
ฟังเพื่อนเล่าก็เยอะแล้ว อ่านจากหนังสือท่องเที่ยวก็บ่อยแล้วว่า ทุ่งโนนสน อช.ทุ่งแสลงหลวง จ. พิษณุโลก บรรยากาศนั้นสวยงามชวนฝันเพียงใด แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเชยชมสักที จนพี่ๆ ที่น่ารักจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก
กริ๊งกร๊างโทร.มาชวนล่วงหน้ากันเป็นเดือนๆ
เพราะไม่อยากให้พลาดโอกาสไปชมความงดงามของทุ่งดอกไม้หลากสีสันที่กำลังชู่
ช่อแข่งขันกันอวดโฉม พร้อมนอนกางเต็นท์สัมผัสลมหนาว
ท่ามกลางอากาศเย็นสบายแสนสดชื่น ทริปนี้บอกได้คำเดียวว่า
ฟังสิบครั้งก็ไม่เท่ากับไปเห็นความงดงามด้วยตาตัวเองเพียงครั้งเดียว!!
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องธรรมชาติและเป็นอุทยานฯ
ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ มีพื้นที่ 789,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ จ.
พิษณุโลกและเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อน
เป็นแหล่งต้นลำธารสำคัญที่ไหลลงสู่แม่น้ำน่าน มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ได้แก่ น้ำตกต่างๆ บนเส้นทางสายพิษณุโลก- หล่มสัก เช่น น้ำตกแก่งโสภา
เป็นต้น ส่วนพื้นที่ด้านตะวันออกและตอนกลางของอุทยานฯ ในอำเภอเขาค้อ
จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นบริเวณป่าสนและทุ่งหญ้าสะวันนา ได้แก่ ทุ่งแสลงหลวง
ทุ่งพญา และทุ่งโนนสน
ทริปนี้เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ มุ่งหน้าสู่ อ.
เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ก่อนเลี้ยวรถเข้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่
สล.12
(รักไทย)เพื่อนอนพักผ่อนเอาแรงก่อนออกเดินทางในช่วงสายๆ ตื่นเช้าวันแรกพวก
เราเติมพลังด้วยข้าวต้มร้อนๆ สำหรับเก็บใช้เป็นเรี่ยวแรงในการเดินป่า
ก่อนเก็บสัมภาระส่วนตัวและแยกสัมภาระบางส่วนที่หนักเกินกว่าเราจะแบกไหวให้
ลูกหาบเเบกขึ้นไป ซึ่งสัมภาระต่อลูกหาบหนึ่งคนนั้นจะไม่เกิน 20
กิโลกรัมเมื่อพร้อมเเล้วเราก็เริ่มออกเดินทางโดยรถ 6 ล้อ
จากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.12 (รักไทย) ไปอีกราวๆ ประมาณ 8
กิโลเมตร ก็ถึงจุดเริ่มต้นสำหรับการเดินป่าท่องเที่ยวทุ่งโนนสน
กายพร้อมใจพร้อม ก็ได้เวลาออกสะพายเป้ออกเดินป่ากันอย่างพร้องเพรียง
ระหว่างเส้นทางเดินป่าไปทุ่งโนนสน
สองข้างเราจะพบกับพรรณไม้น้อยใหญ่ที่เคยเห็นบ้างไม่เคยเห็นบ้างอยู่ตลอดทาง
พร้อมกับเสียงบรรยายของเจ้าหน้าที่ที่คอยให้ความรู้กับนักเดินป่าทั้งหน้า
ใหม่และเก่าตลอดเส้นทาง
อีกอย่างก็เป็นการกระตุ้นให้พวกเรารู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินกับการเดินป่า
ที่ใช้เวลาไม่ใช่น้อย เดินป่ามาครึ่งทาง เห็นหลายคนในทริปถึงกลับลิ้นห้อย
ส่งเสียงหอบ แฮ่กๆๆ แต่อย่างไรก็ตาม
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกคนที่จะมาพิชิตความสวยงามของมวลหมู่ดอกไม้ใน
ทุ่งโนนสนให้ได้ในปีนี้ ก็ไม่มีใครถอดใจยอมแพ้กับความเหนื่อยง่ายๆ
เมื่อแวะเติมพลังด้วยอาหารมื้อกลางวันกลางป่ากันเรียบร้อย
ก็ได้เวลาออกเดินทางต่อ
ระหว่างทางเราได้ยินเสียงแมลงนานาชนิดขับขานเสียงดังระงมไปทั่วผืนป่า
แต่เสียงที่ได้ยินกันบ่อยกว่านั้น คือ
เสียงของผู้ร่วมเดินทางที่มักจะถามเจ้าหน้าที่ว่า ใกล้หรือยังครับ
อีกไกลไหมค่ะ 555 แต่ก่อนที่ทุกคนจะหมดเรี่ยวเรงเดินต่อ
เราก็มาถึงจุดชมวิวแห่งแรกให้ได้ชมเติมแรงใจ ซึ่งพี่ๆ เจ้าหน้าที่บอกมาว่า
จากจุดนี้อีกนิดเดียวก็ถึงทุ่งโนนสนเเล้วครับ
ได้ยินเสียงสวรรค์เพียงเท่านี้ พวกเราทุกคนที่ต่างกำลังเหนื่อยล้าอยู่
หัวใจเบิกบานพองโตขึ้นมาทันที มีพลังเดินป่าต่อกันแบบสู้ไม่ถอยเลยทีเดียว
เดินไปต่ออีกไม่ไกล เราก็มาถึงทุ่งโนนสน
รอบกายเราเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าโล่งกว้างสลับกับสนสูงเหมือนดั่งภาพฝันชวนให้
รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
เมื่อมาถึงเราก็นั่งถอดหุ่ยพักเอาเเรงกันสักนิด
ก่อนลงมือปฏิบัติการกางเต็นท์และช่วยกันทำอาหารเย็นสุดอร่อย
เพื่อนบางคนที่เหนื่อยมาทั้งวันก็เเยกย้ายไปอาบน้ำบ้าง
โดยเดินไปอาบน้ำกันที่น้ำตกกุหลาบแดง ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักราวกิโลกว่าๆ
หรือใครยังไม่ไปอาบก็เดินชมทุ่ง เดินถ่ายรูปดอกไม้ให้หัวใจสดชื่นบ้าง
พักผ่อนกันมาตลอดคืน รุ่งสางก่อนพระอาทิตขึ้น
พวกเรารีบลุกกันมาตั้งกล้องรอเก็บภาพบรรยากาศทุ่งโนนสนในยามฟ้าสาง
ที่พูดได้คำว่าสวยประทับใจเกินคำบรรยาย จากนั้นกินอาหารเช้าเติมพลังอิ่ม
เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็พาพวกเราเดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติรวมระยะทางกว่า 4
กม.
ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติเราจะได้พบกับพันธุ์ไม้หายากเเละพันธฺไม้ไม่ประจำ
ถิ่นหลากหลายชนิด ก่อนมาถึงปลายทาง คือ น้ำตกกุหลาบเเดง
ที่เรามาอาบน้ำกันเมื่อวาน
เห็นแค่นั้นทุกคนก็ไม่รอช้ารีบควักน้ำล้างหน้าล้างตา
บ้างก็ถอดเสื้อผ้าลงเเช่น้ำให้ชื่นใจ
ตรงจุดนี้เราได้เติมพลังกินข้าวเที่ยงกันอีกครั้ง
ท่ามกลางธรรมชาติและน้ำตกแสนเย็นสบาย
จากนั้นก็เเยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือตัวใครตัวมันนั่นเอง 55
ใครจะนอนเล่น ใครจะถ่ายรูป ก็ทำได้ตามใจชอบ ก่อนล้อมวงนั่งคุยกันในยามเย็น
และพักผ่อนให้เต็มอิ่ม ก่อนออกเดินทางในวันรุ่งขึ้น โดยในวันกลับ
พวกเราใช้เวลาเดินทางออกจากทุ่งโนนสน ถึงจุดเริ่มต้น เพียงแค่ 3
ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น เรียกได้ว่ารวดเร็วปานสายฟ้าแล็บ
คงเพราะได้พลังความสดชื่นจากธรรมชาติ ชาร์จแบตให้กับทุกคนเสียกระมัง
เพื่อนๆ
คนไหนสนใจรีบวางแผนเดินทางไปกันนะครับ จะไปเป็นหมู่ ไปเป็นคู่
หรือไปกับครอบครัว
ก็เป็นทริปธที่สนุกและน่าประทับใจแบบไม่เหนื่อยเกินไปสำหรับคนรักธรรมชาติ
และลมหนาวจริงๆ
S! Travel Memo
@ ทุ่งโนนสน
เป็นทุ่งหญ้าสลับป่าสนเขา
ช่วงปลายฝนต้นหนาวตามลานหินจะเต็มไปด้วยไม้ป่าที่แข่งกันออกดอกอวดโฉมความ
สวยงามทั่วท้องทุ่ง เช่น ดุสิตา ม้าวิ่ง กระดุมเงิน กระดุมทอง สร้อยสุวรรณา
เขนงนายพราน และกล้วยไม้ดินนานาชนิด
ทุ่งโนนสนตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของอุทยานฯ
ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.12 (รักไทย) 15 กิโลเมตร
โดยเดินทางด้วยรถยนต์ 6 กิโลเมตร และเดินทางเท้าอีก 9 กิโลเมตร
ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยว คือ เดือนตุลาคม- มกราคม
@ ที่ทำการอุทยานฯ
ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 79-80 เส้นทางสายพิษณุโลก-หล่มสัก
นักท่องเที่ยวสามารถและสอบถามข้อมูลเดินทางศึกษาธรรมชาติใช้บริการที่พักและ
กางเต็นท์บริเวณนี้ได้ สำรองที่พัก โทร.0 2579 7223 , 0 2561 2919
www.dnp.go.th
@ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สล.8 (หนองแม่นา)
มีสิ่งอำนวยความสะดวก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ห้องประชุม สัมมนา สำหรับ
50 คน บ้านพักไว้ให้บริการ 7 หลัง คือ บ้านแสลงหลวง 201-207
สถานที่กางเต็นท์ ค่ายอนุรักษ์ ค่ายพัก 2 หลัง จำนวน 70 คน
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
ติดต่อสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวได้ที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
ต.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
@ การขนสัมภาระในการเดินป่า
แนะนำว่าให้พกสัมภาระที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ พกติดตัวไปด้วยเท่านั้น เช่น
ยาประจำตัว น้ำดื่ม เกลือแร่ หรือขนมเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเติมพลัง
หรือกล้องถ่ายภาพ สำหรับกดชัตเตอร์มุมภาพประทับใจระหว่างเดิน
ก็จะช่วยให้คุณมีความสุขเพิ่มขึ้นอีกเยอะ
@ การเดินทางไปหน่วยฯ หนองแม่นา
- รถยนต์ส่วนบุคคล จาก
บ้านแค้มป์สนกิโลเมตรที่ 100 เส้นทาง พิษณุโลก - หล่มสัก
แยกไปตามทางหลวงหมายเลข 2196 ทางไปเขาค้อจนถึงตลาดพัฒนา
เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2325 จนถึงบ้านทานตะวัน
มีทางไปหน่วยจัดการอุทยานฯ (หนองแม่นา) อีก 3 กิโลเมตร
รวมระยะทางจากบ้านแค้มป์สน 35 กิโลเมตร
- รถโดยสาร จาก
สถานีขนส่งพิษณุโลก โดยสารรถประจำทางสาย พิษณุโลก - หล่มสัก
ลงรถที่บ้านแค้มป์สน กิโลเมตรที่ 100
จากนั้นจ้างเหมารถสองแถวจากบริษัทรถเช่าใน
พิษณุโลกไปยังหน่วยฯหนองแม่นาเลยก็ได้
สอบถามรายเอียดได้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง โทร.0 5526 8019
เรื่องและภาพ: ปิยกิตติ์ นิตย์เจริญ
ที่พักที่เนินมะปราง
ตอบลบhttp://noenmapranghouse.blogspot.com/2013_10_01_archive.html