วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เที่ยวบินพิเศษมหากุศล เส้นทางบุญสู่′วัดป่าวิเวกธรรม′

วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 09:27:03 น.
 






(ที่มา:มติชนรายวัน 12 พ.ย.2555)



เนื่อง ในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2555 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ ทรงรับเป็นนักบินที่ 1 ในเที่ยวบินพิเศษมหากุศล นำคณะพุทธศาสนิกชนเดินทางกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดป่าวิเวกธรรม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นการทำการบินไป-กลับ ในเส้นทางกรุงเทพฯ-ขอนแก่น ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2555

นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงเที่ยวบินมหากุศลครั้งนี้ว่า เที่ยวบินพิเศษมหากุศลเพื่อเฉลิมพระเกียรติ นำคณะพุทธศาสนิกชนเดินทางไปกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดป่าวิเวกธรรม จังหวัดขอนแก่น โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ โดยเสด็จในการนี้ด้วย

"บริษัทได้ทำ หนังสือเชิญแขกผู้มีเกียรติจากภาครัฐและนักธุรกิจชั้นนำของประเทศร่วมเดิน ทางในเที่ยวบินดังกล่าว ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 737 จำนวนที่นั่งโดยสาร 149 ที่นั่ง โดย 49 ที่นั่งจัดไว้รองรับคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง จำหน่ายบัตรโดยสารในราคาที่นั่งละ 500,000 บาท จำนวน 100 ที่นั่ง เงินที่ได้จากการจำหน่ายบัตรโดยสาร 50 ล้านบาท บริษัทจะไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมทบมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.)"

นายสรจักรกล่าวเพิ่มเติมว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นตั้งแต่ปี 2552 ต่อมามีพระราชดำริให้จัดตั้งมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นในปี 2553 เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนไทยที่เรียนดีหรือมีความขยันหมั่น เพียร มีความประพฤติดี มีคุณธรรม มีความยากจน ยากลำบาก ให้ได้มีโอกาสศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญและสายอาชีพต่อเนื่องไป จนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า หรือจนจบการศึกษาขั้นสูงสุด ผู้ที่ได้รับทุนพระราชทานพิจารณาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดละ 2 ทุน โดยที่ผ่านมามีนักเรียนได้รับพระราชทานทุนการศึกษาแล้ว 4 รุ่น รวมแล้วกว่า 600 รายทั่วประเทศ

สำหรับผู้ให้การสนับสนุนการจัดเที่ยวบินมหากุศล ครั้งนี้ อาทิ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม, นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), พญ.โมนา อัศวิษณุ, นายเฉลิมโชค ล่ำซำ, นายศุภชัย เจียรวนนท์, นายขจร เจียรวนนท์, นายสุรงค์ บูลกุล, นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย, นายสมชัย สวัสดีผล, ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล เป็นต้น

ทั้ง นี้ เที่ยวบินมหากุศลครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ในการจัดเที่ยวบินมหากุศล โดยครั้งแรกจัดเมื่อปี 2550 เป็นเที่ยวบินจากสนามบินสุวรรณภูมิไปเชียงใหม่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชดำริโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว นำเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาล 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และครั้งที่ 2 จัดเมื่อปี 2553 เป็นเที่ยวบินมหากุศลนำคณะพุทธศาสนิกชนกราบสักการะพุทธสังเวชนียสถาน สถานที่ตรัสรู้ ณ ตำบลพุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

สำหรับในการเดินทางเที่ยวบินมหา กุศลครั้งนี้ วัดป่าวิเวกธรรม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตั้งอยู่เลขที่ 181 หมู่ 4 ถ.ศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เดิมเป็นป่าช้า ชาวบ้านเรียกว่าป่าช้าวัดป่าเหล่างา หลวงปู่สิงห์ ขนตยคโม มาสร้างไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2471 ครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายองค์ล้วนแต่เคยมาพำนักอยู่ที่วัดแห่งนี้ ปัจจุบันมีพระนักพัฒนาชื่อดังคือ หลวงปู่บุญเพ็ง กปฺปโก หรือพระโสภณวิสุทธิคุณ เป็นเจ้าอาวาส ชาวจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะนักปฏิบัติธรรม ภาวนาจิต ต่างรู้จักชื่อเสียงของท่านเป็นอย่างดี

หลวง ปู่บุญเพ็ง มีชื่อเสียงด้านการแสดงพระธรรมเทศนา อบรมภาวนา ให้กับประชาชนทั่วไป ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ท่านมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะพัฒนากิจการด้านของสงฆ์ให้เจริญรุดหน้าไป พร้อมๆ กับสังคมปัจจุบัน อีกทั้งยังได้บริจาคทุนทรัพย์ก่อสร้างอาคารเรียน บริจาคครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ต่างๆ มากมาย

ด้วยความที่เป็นพระนักพัฒนา หลวงปู่บุญเพ็งได้เริ่มสร้างกุฏิหลังแรกด้วยตัวท่านเอง สร้างเสร็จประมาณปี 2523-2524 พอกุฏิแล้วเสร็จท่านก็เริ่มอบรมภาวนาให้แก่ศิษย์ที่เป็นข้าราชการในหลาย หน่วยงาน เช่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการทหาร ตำรวจ โดยเฉพาะในช่วงเวลาตั้งแต่ 20.30-22.00 น. ทุกวัน จะมีญาติโยมบรรดาลูกศิษย์ของหลวงปู่ จะมานั่งสมาธิ หรือนั่งภาวนาจิต ที่ศาลาหลวงปู่บุญเพ็งจำนวนมากเต็มศาลาทุกวัน

นอกจากนี้หลวงปู่ได้ ให้ความช่วยเหลือสังคมในด้านสาธารณสุข ด้วยการบริจาค ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น อาทิ เครื่องวัดคลื่นหัวใจ เครื่องไตเทียม เครื่องกระตุกหัวใจ รวมมูลค่า 8 ล้านบาท มอบเครื่องมือทางการแพทย์ประจำห้องผ่าตัดโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มูลค่า 1.2 ล้านบาท มอบเครื่องผ่าตัดให้โรงพยาบาลมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม เครื่องไตเทียม 6 แสนบาท ตั้งกองทุนไตเทียมรวมเป็นเงิน 2 ล้านบาท

ด้านการศึกษา หลวงปู่บุญเพ็งได้จัดตั้งมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ เริ่มเงินทุน 2 ล้านบาท บริจาครถโดยสารขนาด 40 ที่นั่ง เพื่อรับส่งพระนักศึกษา และเพื่อใช้ในกิจการของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย เขตอีสาน

จัดตั้งมูลนิธิพระครูวิเวก วัฒนาทร (บุญเพ็ง กปฺปโก) เพื่อบำรุงการศาสนศึกษา และส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาเป็นเงิน 2 ล้านบาท บริจาคเครื่องขยายเสียงพร้อมอุปกรณ์แก่ทันฑสถานจังหวัดขอนแก่น ปี 2545 ก่อสร้างอาคารเรียน โรงเรียนบ้านโจดบัวบาน เขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดมหาสารคาม บริจาคให้มูลนิธิวัดศรีจันทร์ 2 ล้านบาท และได้มีการเสนอขอปริญญากิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ให้หลวงปู่บุญเพ็ง

ปัจจุบันคณะ ศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่บุญเพ็ง กปฺปโก ได้ขอเมตตาหลวงปู่นำสร้าง "พระมหาเจดีย์บุรพาจารย์วัดป่าวิเวกธรรม" ขึ้น เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระสังฆราชได้ประทานให้ตั้งแต่ปี 2549 และบรรจุพระอัฐิธาตุของพระบูรพาจารย์ ตลอดจนเพื่อให้เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสายอรัญญวาสี ในภาคอีสานตอนกลาง เพื่อให้สาธุชนได้มีโอกาสเข้าไปกราบพระมหาเจดีย์บูรพาจารย์วัดป่าวิเวกธรรม ชื่นชมความงดงามของพระมหาเจดีย์ที่ออกแบบเป็นศิลปะร่วมสมัยปัจจุบัน ผสมผสานกับวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของภาคอีสาน เจดีย์สูง 27.9 เมตร ฐานเจดีย์มีรูปทรงแปดเหลี่ยม ซุ้มภายนอกมีพระพุทธรูปปางปราบโจร

หลวง ปู่ได้มีเมตตาให้หล่อพระพุทธรูปปางปราบโจรขึ้น เพื่อปราบทุกข์เข็ญ ปราบโจร ปราบโรค ปราบภัย ที่สำคัญคือปราบกิเลสของผู้คนให้เบาบาง และพระปางห้ามญาติ ประดิษฐานอยู่ทางทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ผนังจารึกประวัติการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสายการปฏิบัติของบรรดาบูรพาจารย์

ชั้น บนเป็นที่บรรจุพระอัฐิธาตุและประดิษฐานรูปเหมือนพระบุรพาจารย์ พระเจดีย์ตอนบนประยุกต์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์สมัยสุโขทัยกับรูปทรงเจดีย์ภาคอีสาน แบบพระธาตุพนม ยอดพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซุ้มประตูเป็นแบบปราสาทขอม ด้วยการออกแบบที่งดงามเน้นประโยชน์ใช้สอย ด้านวิปัสสนากรรมฐาน พระมหาเจดีย์นี้จึงเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมและเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาที่ สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดขอนแก่น

นอกจากนี้หลวงปู่บุญเพ็ง ยังได้ให้ก่อสร้าง "อาคารรังสีรักษา หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก" ขึ้น เพื่อให้โรงพยาบาลขอนแก่นได้ให้บริการฉายแสงแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยโรงพยาบาลขอนแก่นมีความพร้อมด้านบุคคลากรและอุปกรณ์ แต่ยังขาดอาคาร อาคารรังสีรักษาออกแบบก่อสร้างโดยเฉพาะเพื่อป้องกันอันตรายจากรังสี วงเงินงบประมาณ 30 ล้านบาท โดยตั้งชื่ออาคารว่า "อาคารรังสีรักษา หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น