"โอบามา"ชื่นชมไทยมีนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง-แนะคนไทยช่วยกันผลักดัน "ประชาธิปไตย"
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 18 พ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า
ที่ตึกสันติไมตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย
กล่าวภายหลังจากประชุมทวิภาคีร่วมกับนายบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ ว่า
การเดินทางมาเยือนครั้งนี้ถือว่าเป็นวาระพิเศษครบรอบ 180
ปีความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ
ขอบคุณนายโอบามาที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมาโดยตลอด
โดยช่วงบ่ายนายโอบามาได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เข้าเฝ้าฯ แสดงถึงสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ
ทั้งนี้ จากการประชุมร่วมกับนายโอบามา
ทั้งสองประเทศมีจุดยืนเหมือนกันคือการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย
สิทธิมนุษยชน การค้าเสรี และปกป้องประชาธิปไตยคนทั้งชาติ ไปพร้อมๆ
สร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ
เชื่อว่าสัมพันธ์ที่ดีของสองประเทศจะส่งผลต่อการลงทุนเพิ่มขึ้นและการจ้าง
งาน
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า
ยังหารือถึงความร่วมมือด้านความมั่นคงต่างๆ
เพราะไทยถือเป็นประเทศสำคัญที่เป็นตัวเชื่อมอาเซียน
เชื่อว่าภูมิภาคเอเชียจะเป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของโลกต่อไป
นอกจากนี้ยังหารือกับนายโอบามาเรื่องการลงนาม
การประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วมเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ภาคพื้นแปซิฟิก
(TPP)
ซึ่งยังต้องผ่านกระบวนการอีกมากเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นไปตามกฎหมาย
�ยินดี
อย่างยิ่งที่นายโอบามาจะเดินทางไปพม่าต่อจากประเทศไทยช่วยพัฒนาประชาธิปไตย
ในพม่าอีกทาง ดังนั้น
การกลับมามีบทบาทของสหรัฐในภูมิภาคเอเชียถือเป็นเรื่องดี
นอกจากนี้ในภูมิเอเชียยังร่วมมือกันในระดับโลก เช่น
ไม่ให้อาวุธทำลายล้างสูงตกในมือผู้ไม่ประสงค์ดี
หรือการต่อสู้กับขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ข้ามชาติ
ต่อต้านการก่อการร้ายร่วมกัน และการแก้ปัญหาโลกร้อนŽ
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
จากนั้นนายโอบามาขึ้นกล่าว �สวัสดีŽ
เป็นภาษาไทย ก่อนออกตัวว่า
�ขอโทษที่ยังพูดภาษาไทยไม่เก่งเท่ากับที่น.ส.ยิ่งลักษณ์พูดภาษาอังกฤษได้
เก่งŽ สร้างเสียงหัวเราะครึกครื้นให้กับผู้ร่วมฟังการแถลง
นายโอบา
มากล่าวว่า หลังเลือกตั้งประธานาธิบดีตนเดินทางมาประเทศไทยเป็นประเทศแรก
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะสหรัฐเป็นชาติที่อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกเหมือนไทย
ดังนั้น สหรัฐควรมีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคเอเชีย
ไทยถือเป็นประเทศพันธมิตรที่เก่าแก่ของสหรัฐในภูมิภาคนี้ ช่วง 60
ปีที่ผ่านมาทหารไทยและสหรัฐได้ยืนหยัดหลั่งเลือดเคียงข้างกันมาตลอด
ฉะนั้นเป้าหมายของสหรัฐคือ การสร้างความมั่นคงในเอเชีย
เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
ทั้งนี้จากการเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งชาติและสัญลักษณ์ของการรวมจิตใจ
และในขณะนี้ก็ได้ยืนอยู่กับนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง
แสดงให้เห็นว่าประชาธิปไตยไทยพัฒนาขึ้นมาก มีทั้งนิติรัฐ
การพัฒนาเรื่องสิทธิมนุษยชน
นายโอบามากล่าวต่อว่า
สหรัฐมีเป้าหมายในภูมิภาคนี้ 4 ประการคือ 1.ความมั่นคง
เพราะไทยจะมีบทบาทมากขึ้นในการต่อต้านการก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ
ปัญหาโจรสลัด อยากเห็นไทยมีบทบาทเข้าช่วยเหลือภัยพิบัติต่างๆ มากขึ้น
2.ความร่วมมือในภูมิภาค
เชื่อว่าจะช่วยสร้างธุรกิจที่ให้ประโยชน์แก่ทั้งสองชาติ
รวมถึงมีบทบาทในกลุ่มเอเปก รวมทั้งการลงนาม TPP
นั้นเพื่อให้การค้าในภูมิภาคนี้เสรีและเป็นธรรม
3.การพัฒนามนุษย์
เช่น โครงการวัคซีนป้องกันโรคมาลาเรีย ยาต้านเชื้อไวรัสเอดส์
ซึ่งจะช่วยชาติลุ่มแม่น้ำโขงพัฒนาได้มากขึ้น รวมถึงการหยุดการค้ามนุษย์
ที่เปรียบเสมือนการค้าทาสในยุคนี้
นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงเรื่องสิทธิสตรีและเด็กด้วย
รวมทั้งการปกป้องพันธุ์สัตว์ป่าหายาก
และ 4.ผลักดันให้พม่าเป็นประชาธิปไตย
โดยเชื่อว่าประเทศไทยจะมีบทบาทในฐานะผู้ก่อตั้งอาเซียนจะมีบทบาทอย่างมากใน
การประชุมอาเซียนซัมมิตเวลานี้
เมื่อถามว่าพอใจกับการพัฒนา
ประชาธิปไตยของไทยในปัจจุบันหรือไม่ นายโอบามากล่าวว่า
ต้องเข้าใจก่อนว่าประชาธิปไตยไม่ใช่สิ่งตายตัว
แต่คนในสังคมต้องช่วยกันสร้างทีละนิดตลอดเวลาและสม่ำเสมอ
เพราะกระบวนการประชาธิปไตยต้องใช้เวลา ประเทศไทยถือว่ามีผลงานที่ดี
ไม่ใช่ไม่มีเลย เพราะยังมีนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง
ขณะเดียวกันประชาชนไทยต้องมีความตื่นตัวที่จะผลักดันประชาธิปไตย
เหมือนกับสหรัฐที่ต้องผลักดันเรื่องประชาธิปไตยตลอดเวลา
เมื่อถาม
ว่ามีอาหารไทยที่ชอบเป็นพิเศษหรือไม่นายโอบามากล่าวว่า
เท่าที่ลองก็ชอบทุกอย่าง กำลังรอให้งานเสร็จเร็วๆ
เพราะเห็นเมนูอาหารที่จัดเตรียมต้อนรับในวันนี้แล้วจะได้ไปกินข้าว
สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้เข้าร่วมการประชุมได้อย่างมาก
ผู้สื่อ
ข่าวรายงานว่า
ภายหลังการแถลงข่าวรัฐบาลได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำประธานาธิบดีสหรัฐและ
คณะ โดยมีทั้งเมนูไทยและต่างชาติ แต่เน้นที่อาหารไทย อาทิ
เกาเหลาลูกชิ้นเนื้อ ข้าวเหนียวส้มตำ ข้าวสวยผัดผักใส่กุ้ง
ส่วนของหวานได้แก่ ลูกชุบและผลไม้รวม ขณะที่เมนูฝรั่งได้แก่ซุปต่างๆ
และอาหารเรียกน้ำย่อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น