วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เล่นพระสมเด็จอย่าเน้นเรื่องตำหนิในพิมพ์

คนเที่เป็นเซียนพระดังๆ มักแสดงความผิดพลาดออกมามากเกี่ยวกับการศึกษาพระสมเด็จ หลายข้อ/คำอธิบายของเขาไม่สามารถจะเอามาเป็นข้อยุติได้ และทำให้คนรุ่นหลังเล่นพระสมเด็จแบบ แบ่งพรรคแบ่งพวก ทำให้เกิดการแตกแยก และพระสมเด็จนั้นมีปัญหามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเอาตัวเงินเป็นเครื่องวัด ความแท้/เก๊

ขอสรุปว่า ถ้าท่านอยากเล่นพระสมเด็จเพื่อการค้าขาย ให้ื่ท่านเล่นตามแบบคำบรรยายของเซียนใหญ่ที่ขายพระได้เงินดี แต่ถ้าท่านเล่นพระสมเด็จ เอาเรื่องความแท้/เก๊ ท่านต้องเป็นนักวิชาการ คือต้องศึกษา ชี้แจงข้อมูลต่างๆได้โดยมีเหตุผลประกอบ และสามารถวางเป็นรากฐานให้ทุกๆคนศึกษาต่อไปในอนาคต ทุกคำถามต้องมีคำตอบเสมอ และไม่ขัดแย้งตามหลักความจริง

สมาคมพระเครื่องยังขาดความชัดเจนเรื่องนี้ เพราะขาดนักวิชาการ มีแต่พวกพ่อค้า/คนดังๆในสังคมเอามาเป็น บุคคลากรตัวจักรสำคัญ จึงทำให้คนเล่นพระเครื่องสามัญชนทั่วไปขยาด และเศรษฐีที่มีเงินมากตกเป็นเหยื่อ และหลงไหลในคำเยินยอปอปั่น

พระสมเด็จนั้นสร้างขึ้นมาไม่ใช่ให้เกิดปํญหา แต่เพราะเอามาซื้อขายกันจึงเกิดปัญหา พระสมเด็จนั้นทุกท่านถือหลักการว่า พิมพ์ถูก เนื้อใช่ ธรรมชาติถึง คือพระสมเด็จแท้ ดังนั้นเราต้องเล่นพระสมเด็จไปตามหลักการนี้

การชี้ตำหนิพระเครื่องพระสมเด็จนั้นไม่ควรถือเป็นบทยุติ เพราะสาเหตุมาจาก
๑.การกดพิมพ์พระเป็นฝีมือมนุษย์ ดังนั้นต้องมีข้อผิดพลาดมากมาย การกดเนื้อพระไม่สม่ำเสมอ/การปราดเนื้อพระก็เช่นกัน
๒.การผสมมวลสาร ไม่มีหลักเกณต์แน่นอน ส่วนผสมไม่เท่ากัน ก่อให้เกิดปัญหามาก/เนื้อพระติดพิมพ์ไม่ดี
๓.การตากแดด/หรือผึ่งลม ก็มีปัญหากับเนื้อพระแต่ละองค์

สรุปก็คือเป็นเพราะคนทำ ไม่ใช่เครื่องจักรทำ ดังนั้นการชี้ตำหนิจึงไม่เป็นบทข้อยุติความแท้/เก๊
(ภาษาอังกฤษว่า To err is human.) 

แต่ถ้าท่านได้พระสมเด็จแท้และมีจุดตำหนิปรากฏชัด ขอให้ท่านบอกว่าท่านคือผู้โชคดีที่สุด จึงขายพระได้ราคาแพงๆตามใจท่าน ถ้าคนอื่นเขาได้พระสมเด็จแท้ แต่ตำหนิไม่ครบแบบของท่าน อย่าไปบอกว่าของเขาเก๊ เพราะดูเหมือนว่าท่านจะเข้าข้างตัวเอง อันนี้ใช้ไม่ได้ เพราะองค์ที่เขามีมันไม่ใช่องค์เดียวกับท่านมี

ขอบอกอีกครั้งว่าพระสมเด็จนั้นมีมากนับหมื่นองค์เมื่อรวมสามวัดเข้าด้วยกัน และใช้เวลาในการผลิตต่างวาระกัน นับเป็นปีๆ หากท่านต้องการเล่นพระสมเด็จยุคแรกๆ ท่านถือว่าเป็นคนฉลาด และพระสมเด็จยุคแรกน่าจะดีกว่ายุคหลัง เพราะเวลาห่างกันถึงเกือบสิบปี และโอกาสที่ท่านสมเด็จโตสร้างและผสมมวลสารเองย่อมมีมากกว่าช่วงยุคหลัง (ประโยคนี้ผู้เขียนคิดเอง)

ยุคหลังๆท่านสมเด็จโตคงไม่ได้ควบคุมการผลิตเองหรือผสมมวลสารเอง เพราะท่านแก่มากแล้ว คนแก่นั้นต้องการพักผ่อน แต่บัญชางานได้

เล่นพระสมเด็จท่านจงเลือกเอาพระแท้/สวย/ตำหนิมากเก็บไว้ ส่วนที่เหลือท่านก็ให้โอกาสคนอื่นเขาเก็บไป แต่อย่าไปบอกว่าของเขาเก๊เพราะไม่มีตำหนิเหมือนของท่าน เหตุเพราะมันไม่ใช่พระองค์เดียวกัน ถ้าคิดได้แบบนี้แล้วการเล่นพระสมเด็จที่ว่าแท้/เก๊ก็จะสนุก และจะมีการแสวงหากันต่อๆไป ไม่รู้จักจบสิ้น

ม. โชคชัย ทรงเสี่ยงไชย

ภาพประกอบ    



 ------------------------------------------------------------------------------------------------------


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น