วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

บัตรเลือกตั้ง-ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว

ผม เห็นว่าสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งในระบบการโหวตแบบอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นการโหวต (หรือการลงคะแนน) ในการเลือกตั้งทั่วไป ทั้งการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นและการเลือกตั้งในระดับชาติก็ตาม นั่นคือ การใช้บัตรเลือกตั้ง ให้เป็นประโยชน์สูงสุด ตามกติกาสัญญาประชาคม หรือกติกาประชาธิไตย ที่อาศัยเสียงข้างมากเป็นปทัฏฐานการเมืองการปกครอง
     บัตรเลือกตั้งที่หมายถึง Ballot ของอเมริกัน หรือก็คือ บัตรเลือกตั้งสำหรับลงคะแนน (voting) ของคนอเมริกัน มี 2 รูปแบบ คือ บัตรเลือกตั้งประเภทแรกสำหรับการลงคะแนนล่วงหน้า ที่ถูกส่งออกไปล่วงหน้าให้คนที่อยู่ต่างถิ่นหรือต่างประเทศได้มีโอกาสใช้ สิทธิ์เลือกตั้ง (absentee ballot) โดยผู้มีสิทธิลงคะแนนต้องส่ง (ไปรษณีย์) บัตรที่ลงคะแนนแล้วกลับคืนสู่หน่วยงานการเลือกตั้งท้องถิ่นในแต่ละเขต (county) ก่อนวันเลือกตั้ง กับบัตรประเภทที่สองสำหรับลงคะแนนในวันเลือกตั้ง เช่น ในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ (วันอังคารที่ 6 พ.ย.2555) จะมีคนอเมริกันไปใช้สิทธิ์การเลือกตั้งในวันดังกล่าว โดยการทำเครื่องหมายเพื่อแสดงว่าได้ใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งในบัตรเลือกตั้ง แล้ว ซึ่งการทำเครื่องหมายในบัตรเลือกตั้งดังกล่าว เป็นเช่นเดียวกันกับบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า
     ความพิเศษของบัตรเลือกตั้งแบบอเมริกันมีอยู่ 3 ประการ คือ
     1.บัตรเลือกตั้งใบเดียว สามารถใช้เพื่อการเลือกตั้งในระดับและประเภทต่างๆทีเดียวพร้อมกัน ดังกรณีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคราวนี้ ในบัตรเลือกประธานาธิบดี (ถูกวางให้เลือกในข้อที่ 1) นั้นมีการเลือกตั้งประเภทอื่นๆ ได้แก่ การเลือกตั้งผู้แทนฯ (สส.-house of representative) และวุฒิสมาชิก (สว.- senator) ทั้งในระดับท้องถิ่น (รัฐ) และระดับชาติ รวมถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นอื่นๆ อย่างเช่น ผู้พิพากษา เป็นต้น รวมอยู่ด้วย ซึ่งความพิเศษที่ว่านี้ นอกจากจะช่วยประหยัดเงินงบประมาณในการเลือกตั้ง ด้วยเหตุที่การจัดการเลือกตั้งไม่มีความซ้ำซ้อนหลายครั้ง เหมือนบางประเทศแล้ว  ยังเป็นผลดีต่อการวางระบบการเลือกตั้งและนโยบายพรรคการเมืองให้เป็นไปใน ทำนองเดียวกันทั้งในส่วนกลางและในส่วนท้องถิ่น , หมายถึงว่า ประชาชนมีโอกาสในการพิจารณาผู้ลงรับสมัครเลือกตั้งที่เป็นตัวแทนของพรรคการ เมืองต่างๆ หรือลงในนามอิสระ (independent) ได้ทีเดียวพร้อมกันไป อย่างสอดคล้องกันในครั้งเดียว
     2. ในบัตรเลือกตั้ง มีการตั้งประเด็น (เรื่อง) สำคัญๆ  ที่ต้องการทำประชามติเอาไว้ด้วย เป็นทั้งประเด็นในระดับชาติและประเด็นในระดับท้องถิ่น ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ใช้โอกาสเดียวกันนี้ โหวตแสดงความในประเด็นเหล่านี้ เท่ากับทำให้กลไกประชาธิปไตยมีโอกาสขยับขับเคลื่อนได้อย่างเต็มที่ โดยที่รัฐหรือหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเลือกตั้งไม่เสียโอกาส หรือใช้โอกาสในการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อแสวงหาประชามติในเรื่องต่างๆ เพื่อนำเอามติดังกล่าวไปใช้ในการออกกฎหมายหรือระเบียบหลักเกณฑ์ต่างๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ,สามารถหักล้างกระแสที่ว่า รัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการกันเอง โดยปราศจากการหารือกับประชาชน หรือปราศจากการอิงมติมหาชน (ไม่เหมือนกับในบางประเทศ ที่รัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มักอ้างมติมหาชนอยู่เสมอ โดยปราศจากการใช้เครื่องมือหรือกลไกด้านประชาธิปไตยที่สำคัญ คือ การทำประชามติ) และแน่นอนอีกเช่นกันว่า วิธีการที่ว่านี้ เป็นการประหยัดงบประมาณในการทำประชาพิจารณ์ ในประเด็นต่างๆได้อย่างมาก ผู้บริหารภาครัฐ หรือภาคนิติ (รัฐสภา) ไม่สามารถมีข้ออ้างได้อีกต่อไปว่า ประชาชน เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยมากน้อยเพียงใด เพราะมีตัวเลขการลงประชามติที่แน่นอนและชัดเจนอยู่แล้ว
     3.การออกแบบบัตรเลือกตั้ง เพื่อใช้สำหรับเครื่องอิเลคทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือการตรวจผลการเลือกตั้งโดยเครื่องอิเลคทรอนิกส์ เป็นการป้องกันการทุจริตหรือโกงการเลือกตั้งได้อีกส่วนหนึ่ง โดยที่ระบบการตรวจสอบผลการเลือกตั้งเชื่อมจากระบบของท้องถิ่น ไปถึงระบบในระดับรัฐ และท้ายที่สุด คือ ระดับส่วนกลาง (ประเทศ) ทำให้ผลการเลือกตั้งที่ออกมาน่าเชื่อถือว่า เป็นไปโดยสุจริต มากกว่าการตรวจนับคะแนนโดย (มือ) คน ซึ่งโอกาสในการทุจริตมีมากกว่าการตรวจนับด้วยเครื่องอิเลคทรอนิกส์ 
     อเมริกันผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้ง  2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่โหวตล่วงหน้า กับกลุ่มที่โหวตในวันเลือกตั้งใหญ่ จึงได้รับสิทธิ์อย่างเท่าเทียมกันในการใช้สิทธิ์ทางการเมืองเลือกตัวแทนหรือ เลือกผู้นำ และใช้สิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นทางการเมืองต่างๆ รวมถึงการออกกฎกติกา (กฎหมาย) ต่างๆ ที่สำคัญต่อคนอเมริกันในแต่ละท้องถิ่นนั้นๆ 
     นอกเหนือไปจากการที่เรื่องที่ว่านี้แล้ว ยังส่งผลไปถึงการรณรงค์ในประเด็นต่างๆ ดังการทำงานขององค์กรต่างๆ ทั้งองค์กรเอกชนและองค์กรภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการเมืองและงานด้านสิทธิต่างๆ
     เช่น การทำงานของศูนย์กฎหมายเอเซียนแปซิฟิกอเมริกัน (Asian Pacific American Legal Center – APALC) สมาชิกของ The Asian American Center for Advancing Justice ที่ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมชาวไทย (Thai Community Development Center – Thai CDC) และองค์กรท้องถิ่นจากชุมชนต่างๆ จัดทำโครงการ “Your Vote Matters! 2012” โดย โครงการดังกล่าวถูกจัดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้คนอเมริกันเชื้อสายเอเซีย คนพื้นเมืองฮาวาย และชาวหมู่เกาะแปซิฟิกที่อาศัยอยู่ในลอสแองเจลิส (แอล.เอ.) ใด้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง พร้อมทั้งให้การสนับสนุน “Proposition 30”
     “Prop 30” เป็นร่างกฎหมายที่จะเพิ่มจำนวนงบประมาณสำหรับการศึกษาเพื่อป้องกันมิให้มี การตัดงบประมาณโรงเรียนและงบรัฐบาล หรือเพิ่มค่าเทอมสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย ซึ่งเป้าหมายของโครงการนี้ก็คือ กระตุ้นให้พลเมืองออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง โดยพร้อมเพรียงกันในวันเลือกตั้งใหญ่ที่จะถึงนี้
     โครงการ “Your Vote Matters! 2012” เกิดขึ้นได้โดยองค์กรท้องถิ่น 13 องค์กรจากชุมชนต่างๆ และองค์กรเยาวชนในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ที่เป็นตัวแทนคนอเมริกันเชื้อสายเอเซีย ทั้งหมด 9 กลุ่ม ได้แก่ เขมร จีน ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น เกาหลี คนพื้นเมืองฮาวายและชาวหมู่เกาะแปซิฟิก เอเซียนตอนใต้  ไทย และเวียดนาม
     Stewart Kwoh ผู้อำนวยการศูนย์ APALC กล่าวว่า จากผลการสำรวจประชากร (Census) ปี 2010  ชุมชนเอเชียนเป็นกลุ่มประชากรที่เติบโตเร็วมากที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นมากกว่า 33  เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 แต่แม้ว่าคนเอเซียน-อเมริกันมีจำนวนมากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดในรัฐแคลิฟอร์เนีย และใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งมากขึ้นกว่าที่เคย แต่เสียงของเอเชียน-อเมริกันก็ยังคงไม่ได้รับการตอบรับมากเท่าที่ควรในคูหา เลือกตั้ง ความพยายามของAPALCในขณะนี้ คือ ทำการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยรณรงค์ให้สมาชิกในชุมชนของ ออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง และให้ข้อมูลที่สำคัญเพื่อที่ประชาชนจะได้รับทราบว่าตนเองกำลังลงคะแนนเสียง เพื่ออะไร และจะมีผลต่อชีวิต ความเป็นอยู่ และสังคมอย่างไร
     APALC ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 ให้บริการมากประชาชนกว่า 15,000 คนในทุกๆปี โดยผ่านช่วยเหลือโดยตรง การฟ้องร้องที่มีผลกระทบกับส่วนรวม การเป็นตัวแทนในการเปลี่ยนแปลงนโยบาย  การพัฒนาความเป็นผู้นำและการสร้างประสิทธิภาพ โดย APALC มุ่งเน้นไปยังสมาชิกผู้ด้อยโอกาสของกลุ่มชุมชนเอเชี่ยนอเมริกัน (AA) ชาวพื้นเมืองฮาวายและชาวเกาะแปซิฟิก (NHPI) ขณะเดียวกันก็สร้างให้เสียงของชนกลุ่มน้อยในอเมริกามีความเข้มแข็งตามสิทธิ พลเมืองและความยุติธรรมในสังคม
     และนี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของกระบวนการประชาธิปไตยในอเมริกา !

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น