วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ชวนเที่ยวน่าน นั่งสามล้อชมเมือง



"น่าน" เมืองเล็กๆ แต่มีความน่าสนใจในแง่ของธรรมชาติ และวัฒนธรรม ล้านนา ที่ยังคงรักษาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น จนเมื่อใครได้สัมผัส ย่อมยากจะลืมเลือน

ล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ จ.น่าน และเทศบาลเมืองน่าน จัดโครงการ "กดไลก์ เมืองน่านสีเขียว" ส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวที่รักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ และเจ้าของพื้นที่ เข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม ปกป้องแหล่งท่องเที่ยวไม่ให้เสื่อมโทรมลง เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่การท่องเที่ยว โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการประหยัดพลังงาน



หนึ่ง ในเครื่องมือชูกิจกรรมดังกล่าว คือ "รถสามล้อถีบ" ที่เมืองน่านเริ่มอนุรักษ์อย่างจริงจังมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2548 โดยนำมาเป็นพาหนะนำนักท่องเที่ยวไหว้พระเก่าแก่ 9 วัด ในเขตใจ๋เมืองเก่า เพื่อเป็นสิริมงคลบนดินแดนล้านนาอันศักดิ์สิทธิ์

เส้นทางท่องเที่ยว โดยรถสามล้อถีบเมืองน่าน เริ่มจากหน้าตลาดในตัวเมือง ผ่านย่านชุมชนชมวิถีคนเมืองน่าน ที่บางจุดยังคงสภาพโบราณเมื่อครั้งอดีต ก่อนลัดเลาะไปตามถนนริมแม่น้ำน่าน ชมวิถีชีวิตริมน้ำ ทั้งคนทอดแห วัวควายลงอาบน้ำ บางช่วงได้เห็นฝีพายซ้อมแข่งเรือด้วย



เพื่อ ให้สมกับการเที่ยวเมืองเก่าน่าน ก็ต้องไปนมัสการวัดเก่าแก่ และมหาเจดีย์เลื่องชื่อ เริ่มต้นด้วยนมัสการ "พระหลักเมือง" เอาฤกษ์เอาชัยกันที่ "วัดมิ่งเมือง" ตั้งอยู่บนถนนสุริยพงษ์ ต.ในเวียง เชื่อกันว่าเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง องค์พระเจดีย์มีรูปแบบของสกุลช่างน่าน อีกทั้งพระวิหารหลวงยังมีลวดลายปั้นปูนสด ศิลปะเชียงแสนที่งดงาม



จาก นั้นย้อนขึ้นมานมัสการ "วัดภูมินทร์" ตั้งอยู่บนถนนผากอง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นปลายพุทธศตวรรษที่ 21 บูรณะครั้งใหญ่สมัยพระเจ้าอนันตวรฤิทธิเดช ตรงกับปลายรัชกาลที่ 4 สิ่งก่อสร้างเลื่องชื่อในวัดนี้ คือ พระอุโบสถทรงจัตุรมุข ใจกลางประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์

เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน หันพระพักตร์ออกด้านประตูทั้งสี่ทิศ ตามหลักจักรวาลทางพระพุทธศาสนา เชื่อว่าเป็นวิหารทรงจัตุรมุขแห่งแรกของประเทศไทย



นอกจาก นี้ ยังมีจิตรกรรมฝาผนัง เรื่อง "คัทธณะกุมารชาดก" (เจ้าคัทธณะจิ้งกุ่งดีด) ฝีมือช่างชั้นเยี่ยม สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนเมืองน่านในอดีตได้เป็นอย่างดี รวมถึงบานประตูไม้สักทอง แกะสลักลึกเป็น 3 ชั้น ฝีมือประณีตงดงามยิ่งนัก

ฝั่ง ตรงข้ามวัดภูมินทร์ คือ "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน" ภายในแสดงสิ่งของเครื่องใช้แต่ละยุคสมัย และ "งาช้างดำ" สัญลักษณ์ของเมืองน่าน ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช หรือ เจ้าสุริยะ ณ น่าน เจ้าครองนครเมืองน่านองค์ที่ 63 ที่ต้องแวะไปสักการะ ใกล้กันคือ "วัดน้อย" ว่ากันว่า เป็นวัดที่เล็กที่สุดในประเทศไทย



ออก จากพิพิธภัณฑ์ต้องไปนมัสการ "วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร" ตั้งอยู่ที่ถนนสุริยพงษ์ ตามพงศาวดารกล่าวว่า วัดแห่งนี้สร้างโดยพญาภูเข่ง เมื่อพ.ศ.1949 เดิมเรียกว่า "วัดหลวงกลางเวียง" หรือ "วัดหลวงราชสัณฐานกลางเวียง" มีความสำคัญในฐานะวัดประจำเมือง

ภายใน มีองค์เจดีย์ช้างค้ำ และพระพุทธรูปสำริด 3 องค์ ที่สร้างสมัยพระเจ้างั่วฬารผาสุม โดยเฉพาะพระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี ปางลีลา ที่มีพุทธลักษณะงดงามเป็นเลิศของ จ.น่าน



แล้วเลาะ เรื่อยไปต่อที่ "วัดหัวข่วง" ที่ถนน ผากอง ภายในมีอาคารหอไตรที่เป็นเอกลักษณ์ของช่างเมืองน่านที่มีฝีมือโดดเด่น อีกแห่งที่ต้องแวะไปนมัสการ คือ "วัดสวนตาล" ตั้งอยู่ที่ถนนมหายศ ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ที่สุดของ จ.น่าน

พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์เมืองเชียงใหม่ โปรดให้หล่อขึ้นเมื่อครั้งยึดเมืองน่านได้สำเร็จ ราวพุทธศตวรรษที่ 21 เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน ที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในแผ่นดินล้านนา



ที่พลาดไม่ได้ คือ "วัดพระธาตุแช่แห้ง" พระอารามหลวง ปูชนียสถานเก่าแก่อายุราว 600 ปี ผู้ที่เกิดปีนักษัตรกระต่าย ต้องมานมัสการองค์พระธาตุองค์นี้ เพราะเป็นพระธาตุประจำปีเกิดตามคติความเชื่อแบบล้านนา

จากนั้นสาม ล้อถีบจะพาข้ามสะพานพัฒนาภาคเหนือ นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำน่านในมุมสูง พร้อมกับถ่ายภาพแห่งความสวยงามเก็บไว้เป็นที่ระลึก



หลัง ตะลอนเที่ยวครึ่งค่อนวัน ก็ต้องแวะกินและช็อปปิ้งกัน ร้านอาหารที่หลายคนออกปากว่าอร่อย เช่น "ครัวเฮือนฮอม" เยื้องวัดภูมินทร์ เมนูเด็ดคือ แกงคั่วอ่อมเนื้อย่าง

หรือจะเป็นอาหารพื้นเมืองรสจัด จ้าน ต้องไปที่ "ร้านปู่สม" ชุมชนบ้านสวนตาลล่าง ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันดี เพราะเปิดบริการมาอย่างยาวนาน

หากต้องการกาแฟสดสักแก้ว ต้องไปที่ "ร้านภูฟ้า" ริมแม่น้ำน่าน ได้ดื่มชา กาแฟ เคล้าบรรยากาศริมแม่น้ำ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ที่ตลาดโต้รุ่ง ยังมีอาหารคาว-หวานให้เลือกชิมมากมาย ราคา 25-30 บาท



ก่อน กลับแวะซื้อของฝากของที่ระลึกกัน มีหลายแห่งให้เลือกจับจ่าย ทั้ง "ศูนย์โอท็อป" ก่อนขึ้นสะพานพัฒนาภาคเหนือ "ร้านจางตระกูล" ร้านเก่าแก่เป็นที่รู้จักกันดี และอีกหลายแห่งริมถนนย่านการค้า

เมือง น่านเมืองเล็ก ถามอะไรๆ คนเมืองน่านก็ยิ้มและเต็มใจให้คำตอบเสมอ หรือจะสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวก่อนที่ ศูนย์บริการการท่องเที่ยวเมืองน่าน โทรศัพท์ 0-5475-0247 ทั้งเรื่องกิน เรื่องเที่ยว และที่พัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น