วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ศึกใหญ่ ยิ่งลักษณ์ สมรภูมิ จำนำ"ข้าว" ประมาท อาจพ่าย


 12 ต.ค. 2555 เวลา 19:32:45 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
คอลัมน์ มติชน 12 ตุลาคม 2555

หากดูจากจำนวนเงิน 2.6 แสนล้าน ในการขับเคลื่อนโครงการรับจำนำข้าว ก็ต้องยอมรับว่า "เดิมพัน" เรื่องนี้สูง

สูงทั้งเมื่อมองจากรัฐบาล มองจากพรรคเพื่อไทย

สูงทั้งเมื่อมองจากฝ่ายค้าน มองจากพรรคประชาธิปัตย์

จุดอ่อนอย่างยิ่งของรัฐบาลและของพรรคเพื่อไทย คือ มองแต่ในด้านอันเป็นคุณ มองแต่ในด้านที่ชาวนาจะได้ประโยชน์

จึงเห็นแต่ชัยชนะ จึงแฝงความลิงโลด

ลิงโลดกระทั่งมองข้ามผลสะเทือนอันเนื่องแต่การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวว่ามีอยู่มากมายมหาศาลเพียงใด คนที่สูญเสียย่อมหงุดหงิดไม่พอใจ มากเพียงนั้น
เป็นไปตามกฎของ เซอร์ไอแซค นิวตัน

เป็นไปตามหลักการทางฟิสิกส์ มีแรงกดลงเท่าใด ย่อมก่อให้เกิดแรงต้านรุนแรงพอๆ กันเท่านั้น

เป็นแรงต้านทั้งในประเทศประสานกับแนวร่วมต่างประเทศ ที่ไม่ต้องการให้รัฐบาลไทยกำหนดกลไกตลาดข้าวอย่างเป็นฝ่ายกระทำ

เหมือนที่สำเร็จมาแล้วในกรณียางพารา

ทั้งๆ ที่รัฐบาลเป็นฝ่ายรุกนับแต่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 แต่เมื่อเข้าด้ายเข้าเข็ม แทนที่จะยังรักษาสถานะแห่งการรุกอย่างต่อเนื่อง

กลับตกเป็นรอง ตกเป็นฝ่ายตั้งรับ

เป็นเพราะว่าการทำ "แนวร่วม" ของฝ่ายไม่ต้องการเห็นความสำเร็จของโครงการรับจำนำข้าวนั้นดำเนินไปด้วยความคึกคัก

ด้านหลัก คือ พ่อค้าข้าว ผู้ส่งออกข้าว และบางส่วนของโรงสีที่เป็นพ่อค้าข้าว

คนกลุ่มนี้สูญเสียประโยชน์อย่างมหาศาล เพราะโครงการรับจำนำข้าวหมายถึงรัฐเป็นฝ่ายกำหนดเกมโดยเป้าหมายใหญ่อยู่ที่เกษตรกรทำนา

เหมือนโครงการยางพารา เป้าหมายอยู่ที่ชาวสวนยาง

เมื่อสามารถตัดคนกลางไม่ว่าจะอยู่ที่สิงคโปร์ ไม่ว่าจะอยู่ภายในประเทศซึ่งเคยเป็นเสือนอนกินออกไป

ตลาดก็เป็นของผู้ผลิต

บรรดา ผู้สูญเสียซึ่งเคยกำหนดราคา ควบคุมตลาด ย่อมหงุดหงิดงุ่นง่าน และย่อมจะต้องหยิบฉวยเอาลุกแหล่งตีนมือในวงการเมืองและในวงวิชาการมาใช้งาน ประสานความจัดเจนในการสร้างข่าวบิดเบือนและทำลายความชอบธรรมของโครงการ
ใช้ทุกกลไกมาอำนวยประโยชน์

น่าชมเชยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยืนหยัดอย่างมั่นคง โดยมี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง แวดล้อม โดยมี นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ แวดล้อม

และมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นมือไม้ได้อย่างทันการณ์

การผลักดันของ 3 แรงแข็งขันนี้รุนให้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตื่นจากความหลับใหล
สำนึกรู้ในความสำคัญของโครงการ สำนึกรู้ในความรับผิดชอบเฉพาะหน้า

มี ความจำเป็นที่กระทรวงพาณิชย์จักต้องขันเกลียวภายในให้บังเกิดความตื่นตัว แม้ว่าปลัดกระทรวงจะเป็นคนใหม่ อธิบดีกรมการค้าภายในจะเป็นคนใหม่ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศจะเป็นคนใหม่

แต่มีความจำเป็นต้องตื่นตัวและร่วมมือกัน

1 ต้องตระหนักว่าอีกฝ่ายผนึกพลังประสานการเคลื่อนไหวทั้งในและนอกประเทศเป้า หมายมิได้อยู่ที่การล้มโครงการรับจำนำข้าว หากแต่อยู่ที่การล้มรัฐบาล

1 ต้องตระหนักรู้ในการใช้กลไกและเครื่องมือของรัฐที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์

การ ตอบโต้ต้องตอบโต้บนพื้นฐานความจริง บนพื้นฐานของข้อมูล หลักฐานอันหนักแน่นและทันท่วงทีมิใช่ปล่อยเลยตามเลย หรือดูเบากระบวนการผลิตซ้ำข้อมูลเท็จของอีกฝ่าย

ต้องขยัน ต้องตื่นตัว

โครงการรับจำนำข้าวก็เหมือนกับโครงการสร้างสถานะในการกำหนดยางพาราในกาลอดีตนั้นเอง

1 เป้าหมายต้องชัดว่าทำเพื่อใคร เพื่อเกษตรกรทำนา 1 ต้องรู้เท่าทันอีกฝ่ายมิใช่แต่เพียงในเชิงเทคนิควิทยาการ หากแต่ที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือเหลี่ยมคูในทางการเมือง ในทางการข่าว

การศึกมิหน่ายเล่ห์กล จะประมาทมึนชาไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น